13 พฤษภาคม 2568 จากกรณีเจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานเขานัน ถูกชาวบ้านยิงเสียชีวิตขณะออกปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างว่าเข้าใจว่าเป็นหมูป่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 พ.ค.2568) พ.ต.ท.ศักดินันท์ ด้วงโยธา พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา รับแจ้งด่วนจากเจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติเขานัน ว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานถูกยิงเสียชีวิต บริเวณรอยต่ออุทยานเขานันกับสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านท้องที่ หมู่ 4 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากนั้นจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่เกิดเหตุพบศพ นายกฤษศิริ ปิ่นประยูร อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติเขานัน อยู่ในชุดเครื่องแบบสายตรวจอุทยานสภาพศพถูกยิงเข้าศีรษะ ในที่เกิดเหตุมีเพื่อนสายตรวจขณะปฏิบัติหน้าที่รอพบเจ้าหน้าที่อยู่อีก 2 นาย โดยมีผู้บังคับบัญชาอุทยานแห่งชาติเขานัน เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายมนัส กูลระวัง อายุ 37 ปี หลังจากเกิดเหตุได้ถูกคุมตัวไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ และถูกแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และฐานฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
เพื่อนสายตรวจแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ขณะเดินลาดตระเวนปฏิบัติหน้าที่รักษาแนวเขตอุทยานยานตามแผนปฏิบัติการ ป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ ทั้งชุดมี 3 นาย โดยนายกฤษศิริ เดินตรงกลาง เพื่อนเดินขนาบซ้ายขวา หลังจากได้ยินเสียงปืน นายกฤษศิริ ก็ล้มลงเสียชีวิตทันที ส่วนผู้ก่อเหตุพบว่าขัดห้างอยู่บนต้นไม้ได้ถูกคุมตัวได้ และเจ้าหน้าที่มารับตัว
ขณะที่ นายมนัส ผู้ต้องหาอ้างว่า ขณะเกิดเหตุได้ขัดห้างบนต้นไม้เพื่อยิงหมูป่าที่มีอยู่อย่างชุกชุม ขณะเกิดเหตุเข้าใจว่ามีหมูป่าเดินเข้ามาในแนวปืนจึงยิงเข้าใส่ หลังสิ้นเสียงปืนจึงรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่
ด้าน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เป็นหมูป่า เนื่องจากการเดินของเจ้าหน้าที่แตกต่างกับการเดินของหมูป่าอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีไฟฉาย และเพิ่งผ่านพ้นคืนเพ็ญมาเพียง 1 คืน แสงจันทร์ยังสว่างพอที่จะมองเห็น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุเห็นเจ้าหน้าที่แล้วตกใจเกรงว่าจะถูกจับกุมจากการล่าสัตว์ป่าในแนวเขตอุทยาน จึงยิงเข้าใส่เพื่อเป็นการข่มขู่แต่กระสุนถูกเจ้าหน้าที่ถึงแก่ความตาย ขณะนี้ ได้แจ้งข้อสงสัยให้พนักงานสอบสวนทราบแล้ว
ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นเป็นผู้ที่มีทักษะในการลาดตระเวน เนื่องจากเป็นทหารเก่า ถือเป็นการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ทางอุทยานฯ จะดำเนินการตามขั้นตอน ขณะนี้ได้รายงานด่วนไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติแล้ว
ต่อมา เวลา 11.00 น. วันนี้ ( 13 พ.ค.2568) นายเทอดไทย ขวัญทอง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ได้นำนางสยามน แพรพระนาม ภรรยาซึ่งเป็นลูกจ้างอุทยานเช่นกัน พร้อมกับครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของนายกฤษศิริ ไปรอรับร่างของนายกฤษศิริ ที่ศูนย์นิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หลังจากถูกส่งร่างมาทำการชันสูตร
โดยนายเทอดไทย ได้ให้กำลังใจครอบครัว พร้อมทั้งระบุถึงความห่วงใยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขณะเดียวกันเพื่อนเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานได้ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ได้เดินติดตามดูร่องรอยจนไปเห็นห้างล่าสัตว์ที่ผู้ก่อเหตุทำไว้ดักยิงสัตว์ และช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มืด เนื่องจากเป็นคืนแรม 1 ค่ำ พระจันทร์ยังเต็มดวงมีแสงจันทร์สว่างเพียงพอที่จะเห็นคนได้ น่าเชื่อว่ามีเจตนาในการก่อเหตุ และพบว่าเคยถูกดำเนินคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานมาแล้ว
นายเทิดไทย กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องติดตามข้อเท็จจริงให้ได้ว่าเป็นการตั้งใจยิง หรือการเข้าใจผิด ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่เห็นห้างยิงสัตว์แล้ว และได้เดินออกมา ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ไม่ใช่คืนเดือนมืด น่าเชื่อว่ารู้อยู่แล้วว่าเป็นคน ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ว่าเป็นการตั้งใจหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ สั่งการให้ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และจะมีการพิจารณาจากเงินกองทุนดูแลเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในกรณีที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในระหว่างการเข้าพิจารณา