
30 เมษายน 2568 จากกรณีที่ “กัน จอมพลัง” เข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายหลายราย ซึ่งถูกคนร้ายแอบอ้างเป็นไรเดอร์ ติดต่อขอซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วฉวยโอกาสลักทรัพย์ โดยใช้วิธีปลอมตัวเป็นไรเดอร์มารับสินค้า ก่อนหลบหนีไปโดยไม่จ่ายเงิน ซึ่งมีพฤติกรรมคล้าย “โจรนินจา” และพบว่าก่อเหตุในหลายท้องที่รวมกว่า 13 คดี ทั้งในกรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี
ล่าสุด ตำรวจสืบสวนนครบาล สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายกรภัค ชัยมงคล หรือ "โอ๊ค" ตามหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ในข้อหาฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมได้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังได้รับมอบหมายให้เร่งรัดคดี ได้เร่งสืบสวนจนสามารถขอศาลออกหมายจับเมื่อวานนี้ กระทั่งพบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาเช่าห้องพักตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน จึงวางแผนปิดล้อมจับกุม
อย่างไรก็ตาม ขณะเจ้าหน้าที่แสดงตัว นายโอ๊คไม่ยินยอมออกมามอบตัว และหลบซ่อนตัวภายในห้องพักนานกว่า 2 ชั่วโมง จนต้องประสานช่างมาเปิดประตู เมื่อตรวจค้นภายในห้องในเบื้องต้นไม่พบตัวผู้ต้องหา แต่เมื่อตรวจดูใต้เตียงก็พบว่า นายโอ๊คแอบซ่อนตัวอยู่ โดยใช้วิธีเลื่อนหัวเตียงและคลานเข้าไปใต้เตียงเพื่อหลบซ่อน
จากการสอบสวน นายโอ๊คให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจากการต้องการนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเงินหมดก็จะก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดิม โดยพฤติการณ์หลอกผู้ขายตามเพจสินค้าไอทีว่าขอดูของ จากนั้นปลอมตัวเป็นไรเดอร์ไปรับสินค้าแล้วเชิดหนี ในพื้นที่นครบาล นายโอ๊คมีคดีค้างอยู่ที่ สน.ตลิ่งชัน, สน.พหลโยธิน และ สน.พญาไท ขณะที่อีกหลายคดีอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งหลังจากนี้จะมีการส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามหมายจับ และรอการอายัดตัวจากท้องที่อื่นเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้จากห้องพัก ประกอบด้วย กระเป๋าแบรนด์เนม, สายสะพายกล้อง, เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงแมวสองตัวซึ่งนายโอ๊คซื้อมาในราคาตัวละ 6,000 บาท และอาหารแมว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบแมวทั้งสองตัวให้แฟนของนายโอ๊คดูแลต่อไป
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าผู้ต้องหามีประวัติก่อเหตุแล้วอย่างน้อย 13 คดีในหลายพื้นที่ และได้มีการออกหมายจับครบถ้วนแล้วทุกคดี ย้ำว่าพฤติกรรมของนายโอ๊คถือเป็นภัยต่อสังคม เนื่องจากใช้วิธีการหลอกลวงที่แนบเนียนและยากแก่การตรวจสอบ
ขณะที่ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 และผู้เสียหายแต่ละรายไม่ได้รวมตัวแจ้งความ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงคดีเข้าด้วยกันได้ กระทั่งได้รับการร้องเรียนจาก “กัน จอมพลัง” จึงทราบว่าผู้ก่อเหตุคือรายเดียวกัน และสามารถขอหมายจับได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่จึงฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อมีการนัดดูของหรือส่งสินค้าผ่านบุคคลภายนอก ควรตรวจสอบตัวตนผู้ซื้อให้แน่ชัด และหลีกเลี่ยงการส่งมอบสินค้านอกสถานที่โดยไม่มีหลักประกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในลักษณะเดียวกันนี้อีก
ขณะที่ กัน จอมพลัง เดินทางมาที่ศูนย์สืบสวนนครบาล พร้อมพาเหยื่อผู้เสียหาย 5-6 คน เพื่อมาร่วมฟังการแถลงข่าว โดยระบุว่า ผู้ต้องหามักก่อเหตุชิงทรัพย์เกี่ยวกับอุปกรณ์ไอที ทำให้เป็นที่รู้จักโด่งดังในกลุ่มอุปกรณ์ไอทีมาก พฤติการณ์จะใช้วิธีนัดซื้อสินค้า และทำทีขอดูสินค้า เมื่อเหยื่อเผลอจะวิ่งนำสินค้าหนีไป โดยก่อเหตุลักษณะนี้อยู่ประจำ และมีการปลอมตัวเป็นไรเดอร์ โดยหลอกว่าจะให้ไรเดอร์ไปรับสินค้าที่คนขาย และกดเรียกไรเดอร์จริงให้ไปรอหน้าปากซอย จากนั้นจะดูพิกัดว่า เมื่อไรเดอร์ตัวจริงใกล้ถึงคนขาย จะปลอมตัวเนียนเป็นไรเดอร์มีกล่องท้ายรถ ถ่ายรูปรับสินค้า ก่อนนำสินค้าหลบหนีไป โดยก่อเหตุลักษณะนี้แล้ว 10 กว่าครั้ง ในเวลา 2 เดือนแต่ไม่สามารถจับกุมได้
นายกัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ตนได้พาผู้เสียหายไปประสานกับหลาย โรงพักทั้ง สภ.ลำลูกกา และ สน.พหลโยธิน และอีกหลายที่ ก่อนประสานไปที่ พล.ต.ท.สยามฯ ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ฯ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ฯ ผู้การสืบนครบาล เพื่อให้เร่งติดตามตัวเนื่องจากโจรรายนี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นแบบรายวัน กระทั่งสืบนครบาลติดตามจับกุมตัวได้
นายกัน กล่าวอีกว่า สงสารแม่ของผู้ต้องหา ที่ขายของอยู่ตลาดนัด และไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกเป็นโจร โดยลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี แม่อยากให้ลูกอยู่ใกล้มากที่สุด แต่กลับถูกลูกชายยกเค้าบ้านตนเอง แอบขโมยเงินในบัญชีออนไลน์ พระเครื่อง และทองคำ หายออกจากบ้านไป
นอกจากนี้เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ต้องหาบอกว่า กล่องที่ผู้ต้องใช้เป็นไรเดอร์ติดท้ายรถนั้น เป็นกล่องของเพื่อนเอง ทั้งที่เพื่อนคนนี้คอยช่วยเหลือมาตลอด แต่กลับถูกลักกล่องติดท้ายรถไปด้วย โดยเพื่อนผู้ต้องหายังบอกด้วยว่า เป็นรุ่นพี่ตอนเรียน ปวช. ขณะอยู่วิทยาลัยผู้ต้องหาเคยก่อเหตุขโมยเงินสด-ทองของแม่ตัวเอง เนื่องจากติดการพนันออนไลน์ และเห็นว่าก่อเหตุไปเรื่อยๆ จนมาถึงวันนี้
นายกัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ท.สยาม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ผู้การสืบนครบาลใช้เวลาจับกุมเพียง 6 ชั่วโมงในการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และขอบคุณทั้ง 15 สน.ที่จะอายัดตัวผู้ต้องหา ไปสอบปากคำ
ด้านแม่ และครอบครัวของจอมโจรนินจา ยืนยันว่า จะไม่ประกันตัวเพราะรู้ว่าลูกเป็นภัยของสังคม ไม่อยากให้ออกมาก่อเหตุแบบนี้อีก