
กรณี "กัน จอมพลัง" นำข้อมูลพร้อมหลักฐาน รูปภาพของ "เสี่ยป่อง สายไหม" เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "สป. สายไหม" สวมเสื้อ สกรีนคล้ายโฆษณาเว็บพนัน มามอบให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางโซเชียลของ "ป่อง สายไหม" พบเข้าข่ายข้อหา "ชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์" มีโทษ "โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท" และจะออกหมายเรียกมา "ป่อง สายไหม" เข้ามาให้ข้อมูล ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้
30 เมษายน 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สอท.(ตำรวจไซเบอร์) ระบุว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สอท. ว่า "เสี่ยป่อง สายไหม" เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "สป. สายไหม" ได้มอบหมายให้ทนายความขอเลื่อนเข้าพบตำรวจไซเบอร์เป็น วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น.แทน เนื่องจากติดธุระส่วนตัว
หากไม่มาพบตามกำหนดที่ขอเลื่อน จะขอออกหมายจับ ในข้อหา "ชักชวนให้มีการเล่นพนัน มีอัตราโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" เนื่องจากเป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 2
หาก "เสี่ยป่อง สายไหม" เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "สป. สายไหม" มาเข้าพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดและรับสารภาพ ตำรวจก็จะนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงทันที แต่หากปฏิเสธก็จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมและส่งสำนวนให้อัยการพิจารณา
สำหรับคดีดังกล่าวตำรวจยอมรับว่าได้รับข้อมูลหรือเบาะแสมาจากอินฟูลเอนเซอร์ ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ตำรวจจะต้องดำเนินการ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์มีหลายรูปแบบ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอในการตรวจค้นข้อมูล จึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่ตำรวจต้องดำเนินการเมื่อพบการกระทำความผิด โดยไม่ละเว้นและเลือกปฏิบัติ
ส่วนมูลเหตุของเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ไม่ได้นำมาเป็นประเด็นในการดำเนินคดี แต่มุ่งเน้นในเรื่องของการกระทำความผิดและต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด