
29 เมษายน 2568 ที่ห้องประชุม กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กคร.) หรือกองคดีฮั้วประมูล ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดีเอสไอ นัดหมายสอบสวนปากคำพยาน “บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)” กรณีเป็นกิจการร่วมค้ากับ "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด" ภายใต้สัญญาผู้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
โดยมี นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นตัวแทนเข้าให้ปากคำ ในประเด็นที่คณะพนักสอบสวนกำหนด อาทิ
รายละเอียดตามสัญญากิจการร่วมค้า มีการแบ่งสัดส่วนกันอย่างไร โดยเฉพาะสัดส่วน 49% ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ไม่เคยปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อสร้างมาก่อน และภายในสัญญาก่อสร้างฉบับนี้ ในฐานะกิจการร่วมค้ามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างไร
รวมถึงต้องสอบถามด้วยว่า นอกจากสัญญาการก่อสร้างตึก สตง. แห่งนี้ ยังมีสัญญาฉบับอื่นอีกหรือไม่ และใครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตัวจริง ระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทยฯ กับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ
พ.ต.ท.อมร เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า วันนี้นัดสอบพยาน 2 ห้อง คือ ห้องอบรมความเชี่ยวชาญ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำหรับใช้เป็นห้องสอบสวนปากคำ วิศวกร 10 ราย ซึ่งขณะนี้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 1 ราย เบื้องต้นยังไม่มีใครขอเลื่อนการสอบปากคำ ส่วนห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ จะใช้สำหรับสอบปากคำตัวแทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยนัดหมายเวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามว่า “วันนี้มาให้ข้อมูลอย่างไรบ้าง”
นายเกรียงศักดิ์ ตอบกลับว่า “ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน“
และเมื่อถามต่อว่า ”ได้มีการเตรียมเอกสารมาชี้แจงอย่างไรหรือไม่ เนื่องจากอิตาเลียนไทยฯ เป็นกิจการร่วมค้ากับไชน่า เรลเวย์ฯ“
นายเกรียงศักดิ์ ตอบกลับสั้นๆ ว่า ”ครับ“
และเมื่อถามต่อว่า “ ทราบหรือไม่ว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน”
นายเกรียงศักดิ์ ตอบอย่างหนักแน่นว่า “แน่นอน รู้อยู่แล้วครับ“
นอกจากนี้ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า "ตนพร้อมชี้แจง"
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าภายในห้องอบรมความเชี่ยวขาญ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการนำกล่องลังเอกสาร 100 ลัง ที่ตรวจยึดมาจาก 24 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ถูกใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวภายในไซต์งานก่อสร้างตึก สตง. มาเก็บไว้ภายในห้อง ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อสร้างและกระบวนการควบคุมงาน รวมถึงเอกสารการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ และบันทึกการทำงาน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนเชิงลึกของดีเอสไอ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าทั้งบริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เคยมีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสถานที่ราชการสำคัญแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ดังนั้น โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. จึงไม่ใช่โครงการแรกที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันรับผิดชอบ และเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทอิตาเลียนไทยฯ จะไม่รู้ว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน