svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนเหตุการณ์ครบรอบ 21 ปี มัสยิดกรือเซะ ควันปลายกระบอกไม่เคยจาง

ย้อนเหตุการณ์ในอดีต ครบรอบ 21 ปี มัสยิดกรือเซะ หนึ่งในชนวนร้อนปลายด้ามขวาน ที่ควันจากปลายกระบอกยังไม่เคยจาง

ผ่านพ้นมา 21 ปี กับเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เหตุการณ์สำคัญในอดีตที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว คือ ปี 2547 เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 21 ปี คือ 109 ราย

 

แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพียงแต่ที่มัสยิดกรือเซะมีความสูญเสียมากที่สุด คือ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย โดยในวันเดียวกันนั้นยังมีความสูญเสียในจุดอื่นๆ อีก 10 จุด รวมทั้งสิ้น 11 จุด

 

มัสยิดกรือเซะ

 

ย้อนเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ

เช้ามืดของวันที่ 28 เมษายน 2547 มีกลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์บุกโจมตีป้อมจุดตรวจของทหารและตำรวจ รวมที่มัสยิดกรือเซะด้วยเป็น 11 จุด ใน 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และสงขลา (ไม่มีนราธิวาส)

 

หนึ่งในนั้นคือ "จุดตรวจบ้านกรือเซะ" ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี กลุ่มบุคคลประมาณ 15-18 คน รวมกลุ่มเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นสีดำและกางเกงลายพราง มุ่งหน้าไปยังจุดตรวจกรือเซะ ต่อสู้และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย (เสียชีวิตในเวลาต่อมา) จากนั้นผู้ก่อเหตุที่เหลือหลบหนีไปยังมัสยิดกรือเซะ

มัสยิดกรือเซะ

 

มีการยิงต่อสู้กัน ทำให้กลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์ที่บุกโจมตีวิ่งหลบหนีเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ ซึ่งน่าจะมีประชาชนปฏิบัติศาสนกิจด้านในอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ได้นำกำลังปิดล้อมมัสยิดเอาไว้ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย ก่อนตัดสินใจใช้อาวุธหนักยิงถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 ราย ส่วนจุดอื่นๆ ก็มีผู้เสียชีวิตทุกจุด รวมแล้ว 109 คน

 

จากนั้นอีก 3 เดือนต่อมา วันที่ 26 กรกฎาคม 2547 มีการเปิดเผยรายงานของคณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมัสยิดกรือเซะ สรุปว่า หลักฐานอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ปืนเอชเค 33 จำนวน 3 กระบอก เอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก เอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก มีดหลายเล่ม อุปกรณ์ในการประกอบอาวุธอีกหลายรายการ

 

ปรากฏหลักฐานว่า มีการตอบโต้ด้วยอาวุธหลายประเภท ได้แก่ ปืนเอ็ม 16 อาวุธอาร์พีจี (แบบหัวเจาะ) กระสุนปืนอาร์พีจี ระเบิดขว้างสังหาร แก๊สน้ำตา และปืนกล

 

ในส่วนผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ อายุเฉลี่ย 30 ปี แต่งกายในลักษณะคล้ายกัน คือ เสื้อสีดำ กางเกงสีเขียว หรือชุดวอร์ม มีผ้าโพกศีรษะ สวมรองเท้าผ้าใบ จากการตรวจปัสสาวะและเลือดจากศพทั้งหมด ไม่พบสารเสพติดหรือสารอื่นใด

 

เชื่อได้ว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างจริงจัง เพื่อให้มีการเจรจาและยุติเหตุการณ์โดยสันติวิธี

 

อย่างไรก็ดี จากพฤติการณ์ที่ผู้ก่อความไม่สงบมีอาวุธร้ายแรงในครอบครองจำนวนหนึ่ง มีผู้ร่วมก่อเหตุ มีการวางแผนล่วงหน้า ไม่ยอมจำนน รวมทั้งไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้แน่ชัดว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวกระทำการไปเพื่อประสงค์จะเจรจาต่อรองกับรัฐบาลในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

 

เชื่อได้ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อยู่ในฐานะที่สามารถคุกคามต่อชีวิต และร่างกายของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนได้ รวมทั้งการโจมตีจุดตรวจกรือเซะ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ปล้นอาวุธปืน วางเพลิงเผาทรัพย์ แล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในมัสยิดกรือเซะ เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมได้ และสามารถใช้วิธีหรืออาวุธที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์ หากมีการขัดขวางจับกุม

 

การเลือกใช้อาวุธหนักของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐในเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ น่าจะไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ระบุถึงความจำเป็นและการได้สัดส่วนในการใช้กำลังระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ก่อความไม่สงบ

 

อย่างไรก็ตาม รายงานผลการสอบสวน ไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นความผิดของบุคคลใด และไม่ได้ระบุว่าเป็นความผิดของกองทัพ เพียงแต่ระบุว่าอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก

 

วันที่ 28 เมษายน 2568 จึงถือเป็นวันสัญลักษณ์ ครบรอบ 21 ปีเหตุการณ์กรือเซะ ซึ่งในอดีต ในปีอื่นๆ เคยเกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายจุดในวันครบรอบดังกล่าว