ผบก.นราธิวาส แจงเหตุ ตรวจสอบบ้านพัก ผกก.โคกเคียน จนถูกแจ้งความ

28 เมษายน 2568 จากเหตุ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส ถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.) ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส โดยขาดจากบังคับบัญชาตำแหน่งเดิม เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ภายหลังเกิดเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บริเวณริมกำแพงถนนหลัง สภ.โคกเคียน เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจ และประชาชน รวมถึงเด็กได้รับบาดเจ็บหลายราย ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย

 

 

หลังถูกคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.) ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส ได้อัดคลิปเปิดใจแบบดับเครื่องชน พาดพิงถึง พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ขณะที่ผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 นาย ชี้แจงว่า สิ่งที่ ผกก.สภ.โคกเคียน กล่าวหาไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ดี เรื่องราวของ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน กับผู้บังคับบัญชาระดับนายพล ยังไม่จบแค่นั้น เพราะต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 พ.ต.อ.วีรยุทธ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกเคียน ว่า พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา บุกรุกบ้านพักที่อยู่หลังโรงพักโคกเคียน โดยมีพยานเป็นตำรวจหญิงเห็นเหตุการณ์ รวมทั้งมีการแจ้งความกับผู้ใต้บังคับบัญชาประมาณ 10 นายที่ร่วมสนับสนุนการบุกรุกบ้านพัก

 

 

ล่าสุด วันนี้ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยทางโทรศัพท์เกี่ยวกับกรณี พ.ต.อ.วีรยุทธ แจ้งความตัวเอง กับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ข้อหาบุกรุกเคหสถาน ว่า เรื่องดังกล่าวตนปล่อยให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน ขี้เกียจตอบโต้กันไปกันมา ไม่ได้ประโยชน์อะไร ความจริงมันคือความจริง มันมีอยู่แล้ว ปล่อยให้แกเคลื่อนไหวไปคนเดียว

 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นายหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องนี้ ความจริงอีกด้านที่ยืนยันได้ วันนั้น ท่าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พร้อม พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่พื้นที่ ลงตรวจสอบพื้นที่ เนื่องจากจะมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีกำหนดการลงพื้นที่ ทางคณะจึงเดินตรวจความเรียบร้อย แล้วมาถึงบ้านพักของตำรวจ ซึ่งท่านเห็นว่า สภาพไม่ค่อยสวยงามตา จึงเดินเข้าไปดู

 

 

ที่นี้มีอยู่หลังหนึ่งได้เข้าไปแล้วท่านผู้บัญชาการก็ถามว่าบ้านของใคร เจ้าหน้าที่ด้วยกันจึงตอบว่า ของ ผกก. ที่นี้สาเหตุที่ท่านผู้บัญชาการเดินขึ้นไปบนบ้าน ของผกก. เพราะเห็นว่ามีร่องรอยกระจกแตก จะตรวจสอบความเสียหายเพิ่ม ไปเปิดประตูห้องซึ่งไม่ได้ล็อกแล้วท่านผู้บัญชาการ ก็พูดว่าของเต็มเลยถ่ายรูปหน่อย เจ้าหน้าที่ก็ถ่ายรูป 

 

 

ขณะที่ ผู้การและเจ้าหน้าที่อีกส่วนก็อยู่ข้างนอกไม่ได้ขึ้นไป คือทุกคนไม่คิดว่า มันจะเป็นเรื่อง เพียงแค่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุเท่านั้น

    

เรื่องนี้ถือว่าทำให้เสื่อมเสีย ทั้งภาพลักษณ์ตำรวจ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนที่ถูกพาดพิง ต่างวิตกกังวลต่อความปลอดภัย ไม่สบายใจเลยที่เกิดเรื่องแล้วไปถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นๆทำให้เดือดร้อน เพราะเขาต้องปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งบางคนเป็นคนพื้นที่ อาจตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย เมื่อถูกเผยชื่อในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เห็นใจและเข้าใจตำรวจผู้น้อยที่ตั้งใจทำงาน ขออย่าดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยว