
11 มีนาคม 2568 เวลา 05.00 น. พ.ต.ต บุญเชิด เชิดบารมี สว.( สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืน เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 13 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงาน พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลอุทัย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธศวรรย์ ไปสนับสนุนที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์โฮมชั้นเดียวปลูกติดกัน ภายในบ้านบริเวณประตูทางเข้าบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางสาว สิริพร ตุดา อายุ 38 ปี มีบาดแผลถูกยิง เข้าที่แขน ลักษณะล้มหัวฟาดพื้น ภายในห้องนอนพบศพอีกราย ทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ นิ่มมาก อายุ 43 ปี นั่งพิงเตียงนอน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ปาก หน้าอก โดยทั้ง 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน
นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาบราขธานี ทราบชื่อคือนางสาว เกษแก้ว จิตรดี อายุ 23ปี เป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณใบหูซ้าย 1นัด หัวไหล่ 1 นัด และเด็กชาย วัย 5 ขวบ ลูกติดของผู้บาดเจ็บ มีบาดแผลที่นิ้ว
จากการสอบถาม นางสาว มีนา เข็มแก้ว อายุ 43 ปี พี่สาวของนางสิริพร (ผู้เสียชีวิต) เล่าว่า ตนเองพักอาศัยคนละบ้านที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมีอาชีพค้าขายผลไม้ จะไปรับผลไม้ที่ประเทศลาวแล้วมาส่งขายที่ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง 2-3 วัน จะกลับมาพักที่บ้าน
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายทรงพล คงคาไหว อายุ 46 ปี ทราบว่าครอบครัวของฝ่ายหญิง เพิ่งกลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงตามมาพูดคุย เพื่อเคลียร์ปัญหาและน่าจะมีปากเสียงกัน จนมีการใช้อาวุธปืน
ทางด้าน พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไป แล้วไปจอดรถไว้ที่โรงงานแห่งหนึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ทำงาน จากนั้นได้ขับรถยนต์บรรทุก 6 ล้อของโรงงาน เพื่อไปส่งสินค้าที่จังหวัดทางภาคเหนือ มุ่งหน้าไปตามถนนสายเอเชีย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามไปพร้อมกับประสานตำรวจทางหลวง
ขณะนี้ สามารถสกัดจับกุมตัว นายทรงพล (ผู้ก่อเหตุ) ได้ที่บริเวณต่างระดับชัยนาท จ.ชัยนาท จากการสอบถามนายทรงพล เบื้องต้นบอกว่า มาที่บ้านหลังเกิดเหตุ จะเอาทองมาให้ผู้บาดเจ็บ แต่พ่อตาแม่ยายไม่ยอมให้เปิดประตูให้ จึงปีนรั้วเข้าไปภายในบ้าน เข้าไปคุยกับผู้บาดเจ็บ พ่อตาและแม่ยายออกมาต่อว่าจนเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนใช้อาวุธปืนยิงพ่อตา เพราะจะเข้ามาทำร้าย และยิงแม่ยายจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เพื่อจะขับรถไปส่งสินค้าให้กับบริษัทให้เสร็จก่อนแล้วจะกลับมามอบตัว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเร่งสอบปากคำเพื่อหามูลเหตุที่แท้จริง ก่อนจะมีการแจ้งข้อหา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป