
24 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณด่านตรวจสบปราบ จังหวัดลำปาง สามารถบันทึกนาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจกำลังปฎิบัติ หน้าที่ตั้งด่านสกัดตรวจค้นของผิดกฏหมาย
ต่อมาได้มีรถกระบะ อีซูซุ สีบอร์น ทะเบียน เชียงราย และรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไททัน สีขาว ทะเบียน เชียงราย ลักษณะตรงตามที่สายข่าวรายงาน
เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นพบ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นรถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องแหกด่านหลบหนีไป
แต่ทางตำรวจติดตามสกัดจับไว้ได้ในเวลาจากนั้นทำการตรวจค้นในรถพบยาบ้า 13 กระสอบ ประมาณ 3,176,046 เม็ด
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย 1.นายอาจู 2.นายจีระวัฒน์ 3.นายไกรสร 4.นายอาเคอะ 5.นายนวพล และ6.นายปรีชา
เบื้องต้น จากการสอบสวนทั้งหมดได้รับสารภาพว่ารับค่าจ้างจากนายทุนคนละ 2,0000 บาท ในการลอบลำเลียงยาบ้าชุดนี้ลงไปยังพื้นที่ภาคกลาง
โดยต่อมาที่กองบังคบการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5และเจ้าหน้าที่ทหาร ปกครอง ปปส.ภาค5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำมาร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม 6 คดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปางรวมถึงพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีคดีจับยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี จับกุมพนันออนไลน์ จับกุมกลุ่มปล่อยเงินกู้ทวงหนี้ ในพื้นที่ อ.สารภี คดีวัยรุ่นปาระเบิดในปั๊มน้ำมัน
ส่วนในคดีที่สองเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือก ได้จับกุมตัวนายราชันย์ อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1000 เม็ด จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรีบสารภาพว่ารับยามาขายรายย่อยในชุมชน ทางตำรวจจึงขยายผลไป อ.แม่แตงสามารถขยายผลจับกุมตัว นายธีรวัฒน์ อายุ 25 ปี นายวีระพล อายุ 36 ปี นายอนุวัฒน์ อายุ 30 ปีนายเจษฏา อายุ 42 ปชาวจ.ลำพูน นายอัจถพงษ์ อายุ 37 ปี พร้อมยาบ้า 200,000 เม็ด ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อค้ายาที่คอยกระจายยารายย่อยในชุมชนในหลากหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งทางด้านผบช.ภาค 5 ได้สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – 23 ก.พ.68 ได้จับกุมคดียาเสพติดจำนวน 9,065 คดี คดียาเสพติดรายสำคัญ 44 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 33 ล้านเม็ดเศษ ยาไอซ์ 1,863 กิโลกรัมเศษ เฮโรอีน 143 กิโลกรัมเศษ เคตามีน 802 กิโลกรัมเศษ ฝิ่น 8.9 กิโลกรัมเศษ และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติดประมาณ 289 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้แถลงผลการจับกุมคดีอาชญากรรมในพื้นที่อีก 4 คดี โดยในคดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน และทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ลูกหนี้ จนชาวบ้านใกล้เคียงหวาดกลัว ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 คน และแจ้งข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ส่วนคดีเหตุวัตถุเกิดการระเบิด ภายในปั๊มน้ำมัน ย่านถนนห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายพีม เป็นเด็กนักศึกษาชั้นปี ที่ 2 ซึ่งเป็นแก๊งของ นายพีท ที่ทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้เคยทำการสลายและคาดโทษไปแล้ว
คดีที่การรับจ้างเปิดและกดเงินบัญชีม้านำไปหลอกลวงผู้เสียหายทั่วประเทศ รวม 93 คดี และส่งบอสฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยพบว่ามีการถอนเงินผ่านตู้ ATM ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอม
คดีการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีผู้เล่นทั่วประเทศ เงินหมุนเวียนเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ขณะเดียวกันทาง พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (รอง ผบช.ภ.5) ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัญหาชาวอิสราเอลในพื้นที่อำเภอปาย โดยหลังจากที่ได้เดินทางลงพื้นที่ติดดามสถานการณ์ พบกลุ่มอิสราเอลเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ได้มีจำนวนมากตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ โดยเป็นกลุ่มวันรุ่นที่อยู่ในช่วงคึกคะนอง ซึ่งได้มีการปราบปรามเรื่องพฤติกรรมที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญไปแล้ว และในวันพรุ่งนี้ทูตอิสราเอล และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการประทรวงมหาดไทย จะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ต่อไป