svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

หลอกผ่านแอป ก่อนแบล็คเมล์ปล่อยภาพ-คลิปอนาจาร เหยื่อมีทั้ง “ม.1 - สาว 21”

หลอกผ่านแอปพลิกเคชั่น “ม.1 - สาว 21” แลกรูปคุยเรื่องอย่างว่า สุดท้ายถูกแบล็คเมล์ ปล่อยภาพ-คลิป อนาจารจนอับอาย

23 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้เสียหาย 2 เคส เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชั่น ถูกนำภาพและคลิป18+ ส่วนตัว ไปเผยแพร่โพสต์อนาจารในสื่อออนไลน์ สร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้เสียหาย

 

ม.1 ผู้เสียหาย

 

โดยเคสแรก ผู้เสียหายคนแรก ชื่อ น้องมิจ (นามสมมุติ) นักเรียนชายชั้น ม.1 เข้าไปเล่นแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดีย และถูกกะเทยใช้โปรไฟล์สาวสวย หลอกไปถ่ายคลิปอนาจาร และถูกนำภาพลับมาเผยแพร่ ทำให้ได้รับความเสียหาย

หลอกผ่านแอป ก่อนแบล็คเมล์ปล่อยภาพ-คลิปอนาจาร เหยื่อมีทั้ง “ม.1 - สาว 21”

 

น้องมิจ (นามสมมุติ ) เล่าว่า ขณะที่เล่นแอป X (Twitter) เห็นโพสต์ของสาวสวยคนหนึ่ง ชื่อ "ริน" ขึ้นมาบนหน้าฟีด ลักษณะโพสต์ชวนคุย 18+ นัดมีความสัมพันธ์กัน หรือที่ทีมสายไหมต้องรอดเรียกว่า "นัดเผ็ด"  ตนเองสนใจจึงทักไปคุย และมีการแลกเปลี่ยนรูปภาพลับกัน จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ อีกฝ่ายก็นัดให้ไปเจอกันที่ห้องของอีกฝ่ายที่ย่านลาดกระบัง เมื่อไปถึง ไม่พบ "ริน" พบแต่กะเทยคนนึง อายุประมาณ 20 ปี อ้างตัวเป็นน้องชายของ "ริน" ก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกให้ตนเองไปอาบน้ำก่อน ตนเองก็ทำตาม และเมื่ออาบน้ำเสร็จ ตนเองออกมา ก็ถูกกะเทยคนดังกล่าวชวนคุยไปเรื่อยๆ ก่อนจะเริ่มลวนลามและล้วงของลับของตนเอง ตนจึงขัดขืนและหนีออกมา

 

จากนั้น 2-3 วัน กะเทยก็ทักมาข่มขู่ว่าจะโพสต์ภาพที่ตนเองอาบน้ำ รวมถึงภาพที่เคยได้แลกรูปไว้ออกมาประจาน โดยไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้ตนกลับไปมีความสัมพันธ์ด้วยและถ่ายคลิปไว้ เพื่อนำไปขายในโซเชียล แต่ตนเองไม่ยินยอม และพยายามแฉกะเทยกลับ ทำให้กะเทยไม่พอใจ ใส่ร้ายว่าตนเองมีอาการป่วยทางจิต และพยายามคุกคามฝ่ายกะเทย บังคับให้ฝ่ายกะเทยส่งรูปลับ 18+ มาแลกกัน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

สาว 21 ผู้เสียหาย

 

จากนั้นตนถูกปล่อยรูปของลับออกมาว่อนโซเชียล เพื่อนที่โรงเรียนบางคนก็เห็นรูปดังกล่าวและเอามาส่งต่อ ทำให้ต้องอับอายเป็นอย่างมาก

 

สืบทราบข้อมูลของกะเทยคนนี้ พบว่ายังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบัง และน่าจะกระทำเช่นนี้กับผู้เสียหายคนอื่นอีกหลายคน อาจจะถึงหลัก 100 คน บางคนก็ต้องยอมให้กะเทยคนนี้กระทำอนาจารและถ่ายคลิปไว้

 

เคสที่ 2 เป็นหญิงสาว ชื่อ น้องจิน (นามสมมุติ) สาว 21  ถูกชวนคุยและแลกรูปลับ 18+ ลักษณะคล้ายคดีแรก แต่ต่อมาเมื่อฝ่ายชายขอนัดเจอ ฝ่ายหญิงไม่ยอมไปเจอ จึงถูกปล่อยภาพและคลิปลับต่างๆ ที่เคยส่งให้ดู ทำให้เกิดความเสียหาย

 

โดยน้องจิน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักฝ่ายชายผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ในเฟซบุ๊ก และมีการคุยกันแลกไลน์กัน โทรไลน์กัน คุยเรื่อง 18+ แลกคลิปลับกัน ซึ่งเวลาส่งไปให้ดู ตนเองก็จะรีบลบ แต่อีกฝ่ายน่าจะแอบเซฟเก็บไว้

 

ผู้ก่อเหตุ

 

ต่อมาฝ่ายชายโทรมา ตนเริ่มรำคาญ เพราะคุยแต่เรื่อง 18+ จึงตัดสายทิ้งและบล็อกอีกฝ่ายไป แต่ถัดมาประมาณ 1 สัปดาห์ ฝ่ายชายก็แอดไลน์ใหม่มาอีก และโทรมาหาถามเรื่อง 18+ เหมือนเดิม ตนทนไม่ไหว ก็ตัดสายอีก ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ โมโห และส่งข้อความมาด่าตนเอง และบอกว่า "เดี๋ยวเจอกันใน VK (แอปหาคู่)" แล้วเรื่องก็เงียบไป

 

ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ ก็มีผู้ชายแปลกหน้าแอดไลน์มา พร้อมส่งคลิปลับมาให้ดู ถามว่าใช่ตนเองไหม ดังใหญ่แล้วนะใน VK ตนเองจึงไปแจ้งความเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

 

ตำรวจบอกว่า ผู้ชายคนนี้ทำงานที่ไปรษณีย์แห่งหนึ่ง มีประวัติคดีติดตัว เคยไปแบล็คเมล์ผู้หญิงคนหนึ่งมาก่อน และจะช่วยดูแลคดีให้ แต่ตอนหลังตำรวจก็เป็นคนไม่ดีเหมือนกัน หวังจะมีความสัมพันธ์กับตนเองเช่นกัน มีความพยายามนัดให้ไปเจอ แต่เมื่อตนเองไม่ไปเจอ ก็ทำเหมือนไม่ว่างทำคดีให้ตนเอง อ้างติดคดีที่ใหญ่กว่า ทำให้คดีไม่คืบหน้า โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ

 

ผู้เสียหาย

 

ระหว่างนี้ฝ่ายชายที่ก่อเหตุก็ส่งข้อความข่มขู่ตนเองเรื่อยๆ บอกจะส่งคลิปให้ครอบครัว และจะเอาคลิปไปขาย ล่าสุดเพื่อนสนิทของตนเองกำลังเล่นเฟซบุ๊กอยู่ ก็มีคนแปลกหน้ามาแปะคลิปลับของตนเองที่ใต้โพสต์เพื่อนสนิท พร้อมแท็กชื่อเฟซบุ๊กของตนเองลงไปด้วย ทำให้ตอนนี้ตนเองกลัวคนรู้จักรู้ เพราะตนเองยังเป็นนักศึกษาอยู่ กลัวกระทบกับการเรียน ชีวิตและครอบครัว

 

ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า  ซึ่งถือเป็นภัยสังคมอย่างมาก ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ 10.00 น. จะพาผู้เสียหายทั้ง 2 คนไปพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป