18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ จ.ตรัง เมื่อเวลา 05.00 น. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. นำกำลัง กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ (บก.รน.) ตำรวจป่าไม้ (บก.ปทส.) ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ ”“TAKEDOWN MAFIA ยานรก ตรัง-ท่าขี้เหล็ก” เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ จ.ตรัง นครศรีธรรมราช, กระบี่ และ นครปฐม เพื่อกวาดล้างเครือข่ายเครือข่ายยานรก “บอล เขาวิเศษ” หัวหน้าแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ
โดยเป้าหมายสำคัญจุดแรก อยู่ที่บ้านบน ถ.รัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายสุทธินันท์ หรือ ตั๊ก อายุ 37 ปี น.ส.มุขดารินทร์ อายุ 29 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมจําหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 , สมคบกันในลักษณะองค์กรอาชญากรรมยาเสพติด,ร่วมกันฟอกเงิน” เนื่องจากทั้งสองยังเป็นคนสนิทของ “บอล เขาวิเศษ” หรือ นายปราโมทย์ ชูจันทร์ หัวหน้าขบวนการ คอยทำหน้าที่ในการบริหารจัดการบัญชีม้า ที่ใช้รับโอนเงินค่ายาเสพติด รวมถึงการเบิกถอนเงินค่ายาเสพติด
โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบผู้ต้องหาทั้งสองราย กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมนำตัวพาเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ก่อนทำการตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสดและทองคำได้จำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งยังได้กระจายกำลังเข้าอายัดที่ดิน สวนปาล์ม และทรัพย์สินมีค่าของกลุ่มคนใกล้ชิดนายปราโมทย์ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง ที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายอีกหลายรายการ
สำหรับเครือข่ายยาเสพติดของ นายปราโมทย์ นั้นถือเป็นขบวนการค้ายาเสพข้ามชาติรายใหญ่ แม้ว่าปัจจุบันเจ้าตัวจะหลบหนีคดีจ้างวานฆ่า ไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่ก็ยังคงคอยควบคุมสั่งการให้ลูกน้องในพื้นที่ คอยนำยาเสพติดที่ลักลอบขนลำเลียงมาจากพื้นที่ภาคเหนือ รอยต่อติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มากระจายให้กับเอเย่นต์ยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ตัว นายปราโมทย์ ยังมีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเถื่อน คอยสั่งการมือปืน หรือ ลูกสมุนในเครือข่ายยาเสพติด ไปยิงถล่มบ้าน ยิงรถ พังทรัพย์สิน หรือ ตามอุ้มฆ่าลูกหนี้ที่ติดค้างเงินค่ายาเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่จังหวัดตรัง เฉพาะช่วงระหว่างปี 2564 ถึงปัจจุบัน มีเหตุลักษณะดังกล่าวที่เกิดจากเครือข่ายยาเสพติดของนายปราโมทย์มากกว่า 61 คดี จนส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดกลัวอิทธิพลเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีจึงเริ่มแกะรอยสืบหาเบาะแส จนพบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบในลักษณะขององค์กรอาชญากรรม โดยมี นายปราโมทย์ เป็นหัวหน้าขบวนการ คอยประสานกับเครือข่ายยาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำยาผ่านข้ามแดนมาทางรอยต่อชายแดน จ.เชียงราย ก่อนจะสั่งการให้กลุ่มลูกน้องขนลำเลียงมายังพื้นที่ จ.ตรัง แล้วกระจายต่อให้กับเอเย่นต์ในพื้นที่
โดยเงินค่ายาเสพติดส่วนใหญ่จะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีม้าที่จัดเตรียมไว้ โดยมี นายชาญวิช หรือ นัย และ นาย สุทธินันท์ หรือ ตั๊ก คนสนิทของ นายปราโมทย์ เป็นคนถือครองบัญชีม้าเหล่านี้ จากนั้นจะทำการเบิกถอนออกมาเป็นเงินสด แล้วนำไปฝากเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.ธิยานันท์ (สงวนนามสกุล) ภรรยาของนายปราโมทย์ หรือ คนใกล้ชิด เพื่อนำไปฟอกเงินแปรเปลี่ยนเป็นทรัพย์สิน หรือนำไปลงทุนทำธุรกิจต่างๆ เลี่ยงการตรวจสอบ
นอกจากนี้ จากแนวทางสืบสวนยังทราบว่า หลังจากได้เงินค่ายาเสพติดแล้ว นายปราโมทย์ ยังมักสั่งการให้ ลูกน้องไปตระเวนกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วนำเงินสดข้ามไปส่งมอบให้ยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาล ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการดังกล่าวจำนวน 16 ราย จนนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการในวันนี้
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า ที่ไปที่มาของคดีนี้เริ่มจากการจับกุมเอเยนต์ยารายย่อยในพื้นที่ จ.ตรัง จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่อง เพื่อแกะรอยรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ถึงเครือข่ายใหญ่ที่เป็นหัวหน้าขบวนการ โดยใช้เวลาในการสืบสวนนานกว่า 6 เดือน จนสามารถทราบตัวบุคคลของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวทั้งหมด ทั้งกลุ่มที่ทำหน้าที่ค้ายา กลุ่มสมคบร่วมกระทำผิด บัญชีม้า คนกดเงิน หรือ กลุ่มคนที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน และ คนที่ได้รับผลประโยชน์ จึงนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการดังกล่าวขึ้นมา โดยเป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันหลายหน่วยงาน
“เครือข่ายของ “บอล เขาวิเศษ” นับเป็นเครือข่ายใหญ่ แม้ตัวยาเสพติดของกลางที่เราเคยจับไปก่อนหน้านี้จะมีจำนวนไม่เยอะ แต่เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังพบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่าร้อยล้านบาท อีกทั้งยังพบว่าตัว นายปราโมทย์ เอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุอาชญากรรมรุนแรง หรือเหตุอุกฉกรรจ์ต่างๆ ในพื้นที่ อาทิ เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านเรือนประชาชน เหตุอุ้มฆ่าทวงหนี้ค่ายาเสพติด หรือ คดีอื่นๆ อีกมากมาย จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะเกรงอันตรายและอิทธิพลเถื่อน” ผบก.ป. กล่าว
ทุกครั้งที่มีคนติดค้างเงินค่ายาเสพติด นายปราโมทย์ จะสั่งให้กลุ่มลูกน้องนำอาวุธปืนไปยิงถล่มบ้านพัก หรือตามทำร้ายข่มขู่ พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่า นายปราโมทย์ เองมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่าทวงหนี้ยาเสพติดหลายคดี หลังพบว่าลูกหนี้ยาเสพติดหลายรายสูญหายไป หลังจากเดินทางไปเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินกับนายปราโมทย์ ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งจาก 21 เป้าหมายที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นจนถึงตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวได้แล้วจำนวน 8 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่า ได้มาจากการกระทำผิด อาทิ ที่ดิน สวนปาล์ม บ้านพัก รถ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ หลายรายการรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกเหนือลูกหนี้ค้างค่ายาเสพติดนายปราโมทย์ ที่ถูกอุ้มหายตัวไปแล้วนั้น ยังมีหญิงสาวอีกหลายราย ที่เคยเป็นคนใกล้ชิดกับนายปราโมทย์ สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครทราบชะตาชีวิต หลังเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมา พร้อมกับ นายปราโมทย์ อีกด้วย จึงทำให้ตอนนี้นายปราโมทย์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัวเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม