
7 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้า ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับ "สส.ปูอัด" ก่อเหตุขืนใจนักท่องเที่ยว "สาวไต้หวัน" โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2568
ล่าสุด พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยถึงการดำเนินคดี นายไชยามพวาน มั่นเพียรตจิตต์ สส.กรุงเทพ พรรคไทยก้าวหน้า ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ อย่างรอบคอบเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เนื่องจากรายละเอียดต่าง ๆ มีผลกระทบในคดีจึงยังไม่สามารถให้รายละเอีบดอะไรได้
"ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายและทำคดีอย่าตรงไปตรงมา ตอนนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากผู้ต้องหาเป็น ส.ส.และมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในระหว่างสมัยประชุม"
พ.ต.อ.ปรัชญา กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ของคดียังบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ในการสอบสวนทางผู้เสียหายให้การว่าไม่รู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน ยืนยันว่าในคืนเกิดเหตุไม่ยินยอมที่จะมีความสัมพันธ์ด้วย
หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งไปยัง สส.ที่ถูกกล่าวหา และ ทาง สส.ได้รับทราบแล้ว แต่หลังจากออกหมายจับ ยังไม่ได้รับการติดต่อ แต่หากต้องการจะเข้ามอบตัวในระหว่างนี้ พนักงานสอบสวนก็ยินดีจะให้ความยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีผู้ใกล้ชิดกับ สส. เชื่อว่าถูกจัดฉากใส่ร้าย ยืนยันว่า ทางตำรวจดำเนินคดีภายใต้ความยุติธรรมและตามพยานหลักฐานที่ปรากฏทุกอย่าง
ขณะทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตามที่ได้ข้อมูลมาว่า โรงแรมที่เกิดเหตุ อยู่ในซอยมูลเมือง 7 หรือย่านชุมชนวัดล่ามช้าง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นย่านที่พักชื่อดังสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ทีมข่าวได้ไปสอบถามพนักงานของโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ให้ข้อมูลมาว่า นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ได้มาพักที่โรงแรมจริง ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 มากัน 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ ซึ่งเพื่อนผู้เสียหายมาเช็กอินก่อน และผู้เสียหายตามมาทีหลัง โดยทั้ง 2 คนพักห้องเดียวกัน
ในคืนเกิดเหตุ ผู้เสียหายและเพื่อนก็ออกไปเที่ยวท่องราตรีเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นทั่วไป ซึ่งไม่ทราบว่าไปร้านอะไร ในคืนดังกล่าวทางโรงแรมมีพนักงานกะกลางคืนเพียงคนเดียว มาเข้างานช่วงเย็นและเลิกงานตอนเที่ยงคืน ประกอบกับช่วงนั้นกล้องวงจรปิดของโรงแรมเสีย ทำให้ไม่เห็นว่าตอนที่ผู้เสียหายกลับเข้ามาที่โรงแรม มาพร้อมกับใคร ใช่ผู้ต้องหาหรือไม่ แต่ตอนเช้าผู้เสียหายก็ไปแจ้งความกับตำรวจ โดยที่ยังไม่แจ้งให้โรงแรมที่ทราบ
จากนั้นช่วงสายตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ก็มาถ่ายรูปห้องพัก ซึ่งสภาพห้องยังคงสภาพเดิมเหมือนผู้เสียหายพัก
ถัดไปอีกวันมีตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานโดยละเอียด ซึ่งการทำความสะอาดห้องพัก ทางโรงแรมรอจนตำรวจบอกว่า ให้ทำความสะอาดได้ ถึงจะทำความสะอาด
ส่วนกล้องวงจรปิดตำรวจน่าจะได้ภาพจากที่พักอื่นๆ รวมถึงกล้องของทางราชการ ที่มีหลายจุดในซอย