จากเหตุการณ์ลูกชายคลั่ง ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์แทงคอแม่บังเกิดเกล้า วัย 67 ปี จนเสียชีวิต ระหว่างที่แม่เข้าไปห้ามไม่ให้ลูกชายทะเลาะวิวาท ทำร้ายเมีย เหตุเกิดภายในชุมชน 40 ห้อง ซอยดิเรก แยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 7 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
6 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.ท.อดุลย์ มงคลเจริญ สารวัตรสืบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายศุภชัย เถอะมา อายุ 40 ปี (ผู้ก่อเหตุ) ทราบว่า เมื่อ พ.ศ.2553 มีคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และในปี พ.ศ.2560 มีคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย กระทั่งเมื่อต้นปี พ.ศ.2567 ได้พ้นโทษออกจากเรือนจำ ในคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด ในระยะเวลาไม่ถึงปี และได้มาก่อเหตุสะเทือนขวัญซ้ำขึ้นอีกในครั้งนี้
ต่อมา ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นางนิภาพร แสงกัน อายุ 39 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองทะเลาะกับแฟน อยู่ที่บริเวณข้างล่าง ตนเองจริงโทรตามแม่ของผู้ก่อเหตุให้มาช่วย แต่เขากำลังทำร้ายเราอยู่ ก่อนที่แม่จะลงมาช่วยเขาก็ได้เตะ 2 ที แต่ผู้ก่อเหตุกำลังจะง้างมือมาตบตนเองอีก แม่ผู้ก่อเหตุจึงผลักผู้ก่อเหตุจนเซ แต่ผู้ก่อเหตุเอาคืนโดยได้ผลักแม่ให้เซ แม่มีอาการโมโหจึงใช้ไม้กวาดฟาดไปที่ลูกชายของตนเอง แต่ลูกชายไม่ยอม และสวนกลับทันที โดยง้างหมัดรัวใส่แม่ไม่ยั้ง พร้อมกับพูดว่า "มึงแน่หรืออีนก"
อาการของผู้ก่อเหตุขณะนั้น มีหน้าตาขึงขังและมองขวาง โดยผู้ก่อเหตุได้เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านและพูดว่า "เดี๋ยวกูจะฆ่าตายให้หมดบ้าน" ทำให้ตนเองรู้สึกใจไม่ดี ตนเองจึงไม่ตอบโต้ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ง้างมือมาตบที่ใบหน้าตนเอง ทำให้รู้สึกใจเสียเพราะเขาไม่เคยทำมาก่อน จึงร้องไห้ และเขาเตะเข้าที่สีข้างตนเองอีก ตนรู้สึกเจ็บมาก ตนเองจึงรีบวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดออกจากบ้านแล้วก็มาหลบที่ใต้ท้องรถของเพื่อนบ้าน ในใจคิดว่าต้องเอาผู้ก่อเหตุออกจากบ้านให้ได้ เพราะเป็นห่วงลูก
และจะต้องให้ตัวเองพ้นจากเงื้อมือของแฟนด้วย แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก จึงไม่กล้าหลบหนีไปไกลมาก หลังจากตนเองหลบใต้ท้องรถเพื่อนบ้านแล้วได้ยินเสียงลูกชายมาเคาะประตูบ้านของป้า แต่ไม่มีเสียงตอบ ลูกชายจึงวิ่งหนีเอาตัวรอด จากนั้นตนเองทราบว่าลูกของตนเองปลอดภัยแล้วจึงแอบที่ดังกล่าวจนเหตุการณ์สงบลง
ด้าน นาง สมพงษ์ แสงกัน อายุ 66 ปี พี่สาวของแม่คนก่อเหตุ กล่าวว่า ตามกฎหมายเลย จะหนักก็หนัก ไม่แย้ง แต่อยากให้ถึงที่สุด ออกมาพวกเราก็อยู่ลำบาก ติดคุกมาหลายรอบแล้ว เขาเป็นคนนิ่งๆ แต่ร้ายลึก บางทีก็เอากาวมาหยอดรูกุญแจเพื่อไม่ให้ล็อกบ้านได้ ขนาดลูกมันยังต่อย ครั้งก่อนมันจะตีเมีย ลูกจะเข้าไปช่วยแม่มันจะต่อยเอา ลูกก็สู้ พวกเราก็ช่วยกันเอาไม้ไล่ตี ตำรวจจับไปแล้วก็ปล่อยออกมา
ขณะที่ นายสิทธิกร กลิ่นเกตุ อายุ 26 ปี พลเมืองดีผู้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ตนเองนั่งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านได้ยินเสียงคนตีกัน คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ผัวเมียตีกันปกติ จากนั้นเสียงดังขึ้นเรื่อยเรื่อยจึงเดินออกมาดูพบว่า เป็นพี่ที่รู้จัก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกรงว่าพี่เขาจะได้รับอันตราย เนื่องจากมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย จากนั้นตนเองได้เห็นคนร้ายเดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณใกล้พื้นที่บ้าน และมองเห็นลูกชายของผู้ก่อเหตุว่ากำลังจะถูกทำร้าย แต่ลูกชายของผู้ก่อเหตุหนีได้ ตนเองจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย จากนั้นก็เป็นไปตามเหตุการณ์ที่ทุกคนเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาไม่ให้ความยินยอม และเจ้าหน้าที่เกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย ระหว่างที่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากชาวบ้านยังมีความโกรธแค้นฝังใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น