svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ชาวบ้านร้องสภาทนายฯ ช่วยทาง กม. หลังเดือดร้อน ปมถูกเพิกถอนที่ดิน "อัลไพน์"

ตัวแทนชาวบ้าน ยื่นขอสภาทนายความ ช่วยทางกฎหมาย กรณีถูกเพิกถอนที่ดินติดสนามกอล์ฟอัลไพน์ ได้รับผลกระทบเดือดร้อน ด้าน "วิเชียร" นายกสภาทนายความเร่งพิจารณาหาเเนวทางช่วยเหลือ

5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน นายวิระ ตัวแทนชาวบ้านกว่า 10 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสภาทนายความฯ เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยมีนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษเป็นผู้รับเรื่อง

นายวิระ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนชาวบ้านชุมชนสามัคคี อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ซื้อบ้านจัดสรร รวมกันประมาณ 200 กว่าแปลง และชาวบ้านในชุมชนอีก 30-40 หลัง ซึ่งในส่วนของตนเองซื้อบ้านและที่ดิน ขนาด 80 ตารางวา ได้เช่าซื้อและผ่อนรายเดือน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 มูลค่าความเสียหายประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ในส่วนความเสียหายของชาวบ้านอื่นๆที่ซื้อบ้านชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น พร้อมที่ดินขนาด 100 หรือ 200 ตารางรางวา ความเสียหายรายละ 1 ล้านขึ้นไป ซึ่งภายหลังคำสั่งกระทรวงมหาดไทยให้เพิกถอน ก็เป็นช่วงสูญญากาศที่ชาวบ้านมีความเดือดร้อนและวิตกกังวลว่าจะสามารถอาศัยอยู่ในพิ้นที่เดิมได้หรือไม่ และมีความกังวลว่าใครจะจ่ายค่าไฟส่องสว่างและค่า รปภ.ส่วนกลางอย่างไร 

นายวิระ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้เคยไปยื่นหน่วยงานรัฐ ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่ก็ไม่มีความชัดเจน ขณะที่ได้สอบถามไปทางเจ้าอาวาสวัด ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เพียงแต่บอกว่าให้เป็นไปตามแนวทางของหน่วยงานภาครัฐ จึงมาปรึกษากับทางสภาทนายความเพื่อให้ความช่วยเหลือหรือยื่นฟ้องแพ่งกับหน่วยงานรัฐหรือเอกชน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับค่าชดเชยหรือค่าเสียหาย 

"ชาวบ้านต่างไม่มีความรู้ทางด้านข้อกฎหมาย จะดำเนินการอย่างไรชาวบ้านก็พร้อมจะปฏิบัติตามแต่ขอให้มีความชัดเจนและแก้ปัญหาให้ โดยที่บางคนมองว่าเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่นั้น ยืนยันว่า เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองฝ่ายใด แต่เป็นความเดือดร้อนและความทุกข์ของชาวบ้านจริงๆ" นายวิระ กล่าว

ชาวบ้านร้องสภาทนายฯ ช่วยทาง กม. หลังเดือดร้อน ปมถูกเพิกถอนที่ดิน \"อัลไพน์\"

นายวิระ กล่าวอีกว่า ทางชาวบ้านอยากให้สภาทนายความช่วยเหลือทางกฎหมายในการเรียกร้องจากภาครัฐ ชดเชย เยียวยา หรือควรจะทำการฟ้องกับหน่วยงานใด ในกรณีที่ถูกให้เพิกถอนที่ดินเนื่องจากเป็นที่ธรณีสงฆ์เช่นเดียวกับสนามกอล์ฟ อัลไพน์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโครงการหมู่บ้านราชธานี ชาวบ้านต่างซื้อบ้านมาด้วยความถูกต้อง กรมที่ดินออกโฉนดมาให้ แต่ขณะนี้ไม่สามารถนำมาทำอะไรได้ ไม่สามารถนำบ้านไปจำนองได้ ซื้อขายไม่ได้ เราควรต้องฟ้องร้องใคร และต้องดำเนินการอย่างไรอยากให้มีความชัดเจน ขณะนี้ชาวบ้านมีความกังวลอย่างมาก ปัจจุบันบ้านที่ซื้อมายังมีภาระผูกพันในการผ่อนชำระกับทางธนาคาร โดยทางธนาคารก็เก็บอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เป็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านอย่างยิ่ง ที่ผ่านมายังไม่มีใครยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ จึงมาขอความช่วยเหลือกับทางสภาทนายความ 


ชาวบ้านร้องสภาทนายฯ ช่วยทาง กม. หลังเดือดร้อน ปมถูกเพิกถอนที่ดิน \"อัลไพน์\"

ด้าน นายวิเชียร กล่าวว่า หลังจากนี้สภาทนายความจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อพิจารณาและให้คำแนะนำในการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ชาวบ้านที่ถูกเพิกถอนที่ดินต่อไป เรื่องนี้ตนถือว่าเป็นความทุกข์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะทราบดีว่าประชาชนในพื้นที่ได้ทุ่มเงินจากการทำงานลงไปกับการจัดซื้อที่ดินบ้านดังกล่าว แต่บ้านหรือที่ดินดังกล่าวกลับหลุดลอยไปจากปัญหาทางกฎหมายบางอย่าง ตนขอยืนยันกับชาวบ้านว่าสภาทนายความจะไม่ทิ้งชาวบ้านที่มีปัญหาไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าทางสภาทนายจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร นายวิเชียร กล่าวว่า ถ้าเป็นกรณีดังกล่าวการแก้ปัญหามีอยู่ 3 ทาง ตราบใดที่ที่ดินตรงนี้ถือเป็นที่ของสงฆ์อยู่ เมื่อเป็นแบบนี้ไม่สามารถที่จะจำหน่ายเป็นทอด ๆ ได้ โดยการแก้ปัญหาทางแรกคือ ให้ทางวัดเข้ามาดำเนินการในการให้ผู้ถือครองที่ดินปัจจุบันดำเนินการจัดทำเรื่องการเช่า ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์การศาสนา ทางที่สองจะเป็นการดูตามพระราชบัญญัติอิงสิทธิ์ที่สามารถจัดให้มีทรัพย์อิงสิทธิ์ได้ และประการสุดท้ายวัดจะต้องดำเนินการในการที่จะเสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ของสงฆ์คือกระทรวงศึกษาธิการ เสนอต่อทางรัฐบาลให้มีการตราพระราชบัญญัติโอนทรัพย์ของทางวัดให้บุคคลที่ได้ที่ดินมาอย่างสุจริต 

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ในส่วนของการตราพระราชบัญญัติโอนทรัพย์ของทางวัดให้กับบุคคลที่ได้มาโดนสุจริตจะต้องเป็นนโยบายของฝ่ายรัฐบาล รัฐมนตรีและกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาดูแลตรงส่วนนี้ แต่ถ้าเกิดว่าไม่สามารถหาทางออกได้ ต่อไปจะเป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นบุคคลจากภาครัฐ เพื่อให้มีการเยียวยาคืนแก่ผู้เสียหายที่ซื้อที่ดินดังกล่าวอย่างสุจริต

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เราจะประชุมกับฝ่ายคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องและตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหาทางออกโดยด่วน โดยตนขอยืนยันว่าจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายถ้าเกิดว่าเรื่องเข้าเกณฑ์การช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่ในส่วนของการขึ้นศาลทางประชาชนจะต้องเป็นฝ่ายชำระในส่วนนั้นเองเนื่องจากเป็นเงินที่ไม่ได้จ่ายให้ทางสภาทนายความ แต่ส่วนของค่าทนายความขอยืนยันกับประชาชนว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แน่นอน