svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“ปู มัณฑนา” แจ้งความเอาผิด “ทนายแก้ว-หนุ่มกรรชัย” ฐานหมิ่นประมาท

“ปู มัณฑนา” อดีตดาราชื่อดัง แจ้งความเอาผิด “ทนายแก้ว-หนุ่มกรรชัย” ฐานหมิ่นประมาท ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย จากเหตุทั้งคู่ร่วมกันทำแบบนี้

4 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. มีรายงานว่า นางมัณฑนา หิมะทองคำ หรือ ปู มัณฑนา ผู้เสียหาย ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อตำรวจ สน.ทองหล่อ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.เปรม ชำนาญดู รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แก่

1.นาย มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว (ผู้ต้องหาที่ 1)

2.นาย ภูดิท กำเนิดพลอย  หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง  (ผู้ต้องหาที่ 2 )

3. บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 3 ) และกับพวก
“ปู มัณฑนา” แจ้งความเอาผิด “ทนายแก้ว-หนุ่มกรรชัย” ฐานหมิ่นประมาท

เนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ใส่ความผู้เสียหาย ในขณะออกรายการโหนกระแส ของผู้ต้องหาที่ 3 ที่ได้เผยแพร่ไปสู่สาธารณะชน และบุคคลที่ 3 รับฟังแล้วเป็นที่เข้าใจ ว่า ในการว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความของผู้เสียหาย ผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้อง “ไปโบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเป็นความเท็จ” (ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ไปตกลงว่าจ้างจำนวนหลายคน และผู้รู้ด้านกฎหมายจำนวนมากให้ความเห็นตรงกันว่า ใครจะกล้าไปว่าจ้างให้ทนายความที่มีชื่อเสียงให้ไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ)

ในประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 พูดส่งเสริมสนับสนุนและผู้ต้องหาที่ 3 ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ออกอากาศไปสู่สาธารณะชน โดยไม่ได้ตรวจสอบกลั่นกรองข้อเท็จจริงให้ถูกต้องก่อน ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกสังคมเข้าใจผิด ดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง
นาย มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว

 

ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงอย่างมาก เพราะผู้เสียหายเคยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง เคยได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองนางสาวไทย อันดับ 2 สามีเป็นถึงอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง อดีตพิธีกร และอดีตนักแสดง
ปู และ สามี

ผู้เสียหายขอความเป็นธรรมต่อไปว่า เหตุในการเลิกสัญญาว่าจ้างทนายความต่อกันนั้น ไม่ใช่ผู้เสียหาย ให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไป “โบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้” แต่เป็นเพราะผู้ต้องหาที่ 1 ได้ทำหนังสือขอเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง และอาจจะถือได้ว่าเป็นเอกสารเท็จ เพื่อจะนำไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน และผู้เสียหายเห็นว่าหนังสือดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้เสียหายมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสอบสวนหรือ อาจจะถูกออกหมายจับเพราะเหตุในการเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 นั้นไม่ตรงต่อความเป็นจริง

และความเป็นจริงผู้เสียหายมีอาการเครียดจนป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะถูกออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ป่วยที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นความเท็จ ตามที่ผู้ต้องหาที่ 1 ได้จัดทำหนังสือให้ และเหตุในการเลิกสัญญาต่อกันอีกประการหนึ่งคือผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหนังสือขอเลื่อนคดีดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวนในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจ แต่จะให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อ ผู้เสียหายก็ไม่กล้าลงลายมือชื่อ เพราะว่าหนังสือดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นความเท็จ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ผู้เสียหายเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผู้เสียหายได้ว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความ เป็นเงินประมาณ 150,000 บาท ผู้ต้องหาที่ 1 ก็ต้องควรที่จะปกป้องผู้เสียหายตามกฎหมาย

ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุให้เลิกสัญญาต่อกันโดยสมัครใจ ส่วนเหตุที่ผู้เสียหายต้องขอความเป็นธรรมต่อสังคม โดยการโพสต์ข้อความลงสื่อสาธารณะเพราะว่า ส่วนหนึ่งผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาที่ 1 หักเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นค่าทำหนังสือที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริงดังกล่าว แต่เสียหายไม่ได้ต้องการที่จะขอเงินจำนวน 50,000 บาท ดังกล่าวนี้คืน เพียงแต่ต้องการเตือนสังคมและเตือนประชาชนว่า เวลาว่าจ้างทนายความนั้นควรที่จะต้องตกลงกันให้ชัดเจนในข้อตกลงต่างๆ และต้องทำเป็นหนังสือสัญญา มิฉะนั้นแล้ว ก็อาจจะได้รับความเสียหายอย่างเช่นผู้เสียหาย

ส่วนเรื่องที่มีการพูดยอมรับกันในขณะออกสื่อว่า มีการหักให้ค่านายหน้านั้น ผู้เสียหายมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผิดมารยาททนายความ ข้อไหน หรือไม่อย่างไร ในส่วนนี้ผู้เสียหายไม่ทราบ เพราะเป็นส่วนของสภาทนายความ ที่จะต้องตรวจสอบและดำเนินการไปตามกฎหมาย
นาย ภูดิท กำเนิดพลอย  หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง