
31 มกราคม 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 สั่งการ ตำรวจ บก.สส.ภ.1 ประสาน ตร.สภ.พระประแดง และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์ย่านรามคำแหง 52 ตามหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 40 / 2568 ลงวันที่ 30 มกราคม พบของกลางเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (gsm gateway) จำนวน 5 เครื่อง (ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 32 ช่อง/เครื่อง )
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายนับ 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนชนหาเช้ากินค่ำ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินในพื้นที่ สภ.สมุทรปราการ และ พื้นที่ จ.ตรัง และ จ.อุบลราชธานี จากการตรวจสอบพบว่า หมายเลขที่ใช้ในการหลอกลวงนั้น มีการส่งสัญญาณซิมบ็อกซ์ ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เฝ้าติดตามสืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่า เครื่องดังกล่าวมีการนำมาตั้งปล่อยไว้ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้
จากการตรวจค้นพบเครื่องซิมบ็อกซ์จำนวน 5 เครื่อง สำหรับเครื่องซิมบ็อกซ์นั้นคือ ปลายทางมีการใช้เสาสัญญาณในประเทศไทย แต่บุคคลที่หลอกลวงนั้นจะใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้าน ในการเชื่อมมายังตัวปล่อยสัญญาณดังกล่าว จึงได้เปิดปฏิบัติการทลายรังซิมบ็อกซ์ ทั้งนี้ตรวจสอบพบว่า มีผู้มาเช่าอพาร์ทเม้นท์นี้ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในราคาเดือนละ 3,700 บาท จากการสืบสวนของตำรวจ บก.สส.ภ. 1 ทราบว่า มีการติดตั้งเครื่องซิมบ็อกซ์ ที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายอยู่ในห้องพักดังกล่าวจึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้น ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ที่เปิดห้องเช่าได้ 1 ราย ทราบชื่อนายแบล็ค (ผู้เปิดห้องเช่า) และ ผู้จ้างวาน 2 ราย ชื่อ นายโต้ และ นายเอ ให้การว่า ตนมีหน้าที่ในการเข้ามาทำสัญญาเปิดห้องจะได้ค่าจ้างอยู่ที่ห้องละ 5,000 บาท โดยจะเปิดห้องย่านรามคำแหงที่ลับหูลับตาคน และอีกห้องคืออยู่ที่ย่านอ่อนนุช รวมเป็นเงิน 10,000 บาท เปิดห้องครั้งแรกวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากเปิดห้องวันที่ 11 ธันวาคม นายโต้จะเป็นคนนำกล่องซิมบ็อกซ์มาไว้ ก่อนที่นายเอ และ นายโต้ง จะทำการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ฝากไปยังอพาร์ทเม้นท์ และ ผู้ให้บริการห้องเช่า หากพบเหตุต้องสงสัยเช่น ตัวคนไม่อยู่แต่ค่าไฟสูงผิดปกติ เพราะต้องเปิดแอร์ไปไว้ให้อุปกรณ์ไม่ร้อน ให้รีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อเข้าดำเนินการต่อไป