22 ม.ค. 2568 จากเหตุ นายเสรี อายุ 31 ปี นายห้าง เจ้าของร้านขายผ้าชื่อดัง ปากซอยสุขุมวิท 7/1 ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีทอง ไล่ชน รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงินขาว เป็นเหตุให้ นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี อาชีพไรเดอร์ เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าโครงการก่อสร้างเท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. ท้องที่ สน.ลุมพินี เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 21 ม.ค. 2568 โดยทั้งคู่มีการขับรถเฉี่ยวชนและมีการทะเลาะวิวาทชกต่อยกันมาก่อนหน้า โดยตำรวจจับกุมนายเสรี ได้หลังเกิดเหตุในวันเดียวกัน พร้อมทั้งดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โดยนายเสรี ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล
โดยในวันนี้ ตำรวจคุมตัว นายเสรี เข้าฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่ นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บรรยากาศการรับศพ นายฤทธิ์ศักดิ์ ไรเดอร์ ผู้เสียชีวิต โดยช่วงบ่ายวันนี้ นางสายใจ ภรรยาของไรเดอร์ ที่ พร้อม น้องแพท อายุ 23 ปี ลูกสาวคนโต และน้องพั้นช์ อายุ 19 ปี ลูกสาวคนรอง รวมถึงเพื่อนไรเดอร์และญาติ เดินทางไปรับศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก
โดยระหว่างเคลื่อนร่างของ นายฤทธิศักดิ์ ออกมาขึ้นรถนั้น ทันทีที่ น้องพั้นช์ ลูกสาวคนรอง เห็นร่างพ่อได้ร้องไห้ และกอดญาติตลอดเวลา และช่วงหนึ่งน้องพั้นช์ เข้าไปจับเท้าพ่อและพูดบอกลา ก่อนที่ภรรยาจะจุดธูปทำพิธี อัญเชิญร่างขึ้นรถ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า จากนั้นได้เคลื่อนร่างไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน
โดยน้องพั้นช์ ลูกสาวคนรอง เปิดใจให้สัมภาษณ์ถูกการสูญเสียพ่อ ว่า อยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงที่สุด ในฐานะคนเป็นลูก รับไม่ได้แน่ๆกับเหตุการณ์แบบนี้
วันนี้ ที่รับศพพ่อ ได้มองร่างพ่อ และบอกพ่อว่า ขอให้พ่ออโหสิกรรมให้กับหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูได้ทำผิดพลาด หรือได้ทำไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอโทษพ่อ และสัญญาว่าจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ให้ ขอให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ให้พ่อพักผ่อน
โดยน้องพั้นช์ พูดไปร้องไห้ไป และบอกว่า ได้ดูคลิปช่วงเกิดเหตุบ้างแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะทำกับพ่อขนาดนี้ มันรุนแรงมากๆ จนไม่อยากจะจับโทรศัพท์ ไม่อยากเห็นรูป ไม่อยากเห็นคลิปเลย
อยากบอกไปถึงผู้ก่อเหตุด้วยว่า หนูเสียใจมาก หนูอยากให้เขานึกถึงคนเป็นพ่อ มีลูก หรือคนที่มีครอบครัว พ่อของหนูเป็นเสาหลักของบ้าน และในอนาคตเขา เขาก็ต้องมีลูก เขาไม่สงสารหนูบ้างเหรอว่า หนูจะรู้สึกอย่างไร
เมื่อถามว่าถ้าครอบครัวผู้ก่อเหตุจะมาขอขมา น้องพั้นช์ บอกว่า หนูก็ยินดี แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะถ้ามันเป็นสิ่งที่เขาอยากทำ และสมควร ก็ให้เขาทำไป
เมื่อถามว่า จะอโหสิกรรมให้หรือไม่ น้องพั้นช์ ตอบว่า หนูอาจจะดูใจร้าย แต่หนูไม่สามารถให้อภัยเขาได้ เพราะพ่อหนูเป็นโลกทั้งในของหนู หนูรู้ข่าวเมื่อวานตอนเรียนอยู่ มันเหมือนโลกทั้งใบของหนูถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาหนูเลย มันไม่มีใครทำใจได้ เสียใจมากๆ เพราะกะทันหันมาก ตอนเช้าพ่อหนูยังให้สตางค์มาโรงเรียน แล้วบอกว่าให้ตั้งใจเรียน และยังถามเรื่องสอบมหาวิทยาลัยอยู่เลย
นอกจากนี้ น้องพั้นช์ ยังพูดถึงความประทับใจในตัวพ่อด้วยว่า พ่อเป็นฮีโร่ทุกอย่าง ยอมเหนื่อย ยอมทำงานหนัก เพื่อให้ลูกทุกคนสบาย พ่อเขาจะลำบากแค่ไหน ลูกต้องสบายทุกคน ได้เรียนหนังสือ ให้พวกหนูไม่อายใคร พ่อสนับสนุนพวกหนูตลอด ทำงานวิ่งไรเดอร์เป็นหลัก เริ่มวิ่งงานตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน
หลังจากนี้ น้องพั้นช์ บอกว่า ก็ต้องให้กำลังใจคนที่ยังอยู่กันไป เดี๋ยวทุกอย่างมันจะผ่านไป โดยเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร มีแค่พ่อเจ็บขา แล้วบอกจะไปหาหมอ พ่อก็มาพูดแซวว่า ต้องตัดขาแล้ว อยู่ไม่ได้แน่เลย จนถึงวันนี้หนูนอนไม่หลับเลย หลับตาทีไรก็คิดถึงแต่หน้าพ่อ
ขณะที่เวลา 14.30 น. นางสายใจ ภรรยาของไรเดอร์ ผู้เสียชีวิต พร้อมลูกสาว ได้นำพระสงฆ์ มาทำพิธีเชิญวิญญาน ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ หน้าโครงการก่อสร้าง เท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท ระหว่างสุขุมวิทซอย 8 และซอย10 โดยลูกสาวได้นำรองเท้าและเสื้อผ้ามาวางเพื่อทำพิธี จากนั้น นางสายใจ ได้จุดธูป และเรียกให้สามีตามกลับไปที่วัดคลองเตยใน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ รวมตัวกันมาจุดเทียน วางดอกไม้ไว้อาลัย บริเวณจุดเกิดเหตุด้วย พร้อมกับเขียนป้ายข้อความเรียกร้องความยุติธรรม ที่มีข้อความว่า “ฆาตกรต้องไม่ลอยนวล The murderer must not go unpunished. #SaveRider” และได้ร่วมมอบเงินช่วยเหลือ ที่รวบรวมจากเพื่อนไรเดอร์ด้วยกันมามอบให้กับ นางสายใจ เพื่อช่วยเหลือ
นายอดิเรก ตัวแทนเพื่อนที่ทำงานไรเดอร์ด้วยกัน บอกว่า บ้านอยู่ใกล้กับผู้เสียชีวิต และเป็นเพื่อนที่ทำงานไรเดอร์ด้วยกัน ต้องมาเรียกร้อง มาแสดงออก เพราะเห็นว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนรวย ขายเสื้อผ้า จึงกังวลว่ามวยจะล้ม กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้น้องได้รับความยุติธรรม เพราะเหตุการณ์รุนแรงเกินไป และเพื่อนรุ่นน้องของตนที่เสียชีวิต เป็นคนดี ทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่ยุ่งกับใคร
ทำงานอย่างเดียว ตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น. เลิกงานเที่ยงคืนก็กลับบ้าน พูดคุยอัธยาศัยดี ไม่เคยมีปากเสียงกับใคร ไม่ใช่คนใจร้อน ทำงานหาเงินเพื่อมาดูแลครอบครัว เพราะเขาเป็นเสาหลัก ดังนั้นจึงไม่อยากให้น้องตายฟรี เพราะพฤติกรรมที่อยู่ในคลิปมันโหดร้ายเกินไป จึงอยากขอความยุติธรรมให้น้องด้วย