นำตัวฝากขังศาล หลัง"เบียร์ นายปฏิพัธน์"สารภาพวางยาเพื่อนสนิท

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง อายุ 25 ปี ขี่จยย.ล้มจนเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี เบื้องต้นแพทย์ติดใจ เพราะไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัส จึงส่งร่างไปชันสูตรอย่างละเอียด ผลตรวจนิติพิษวิทยาจากเลือดและกระเพาะอาหาร พบสารไซยาไนด์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 67 ต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้ขอศาลออกหมายจับ นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็น LGBTQ เพื่อนสนิทน้องตอง ชลดา ในข้อหา "ติดสินบนเจ้าพนักงานฯ" หลังเสนอเงินให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี 1 ล้านบาท ให้ทำคดีของน้องตองเป็นอุบัติเหตุ หลังจากผลชันสูตรออกมาว่าถูกวางยา กระทั่งตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ช่วงเช้าวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา

9 สิงหาคมคม 2567 วันนี้ตำรวจนำตัว นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ออกมาสอบปากคำ เพื่อเตรียมตัวนำไปฝากขัง ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ภาค1 จ.สระบุรี 

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ขณะจะนำตัวไปฝากขัง น้าสาวของนายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ โวยวายกับพนักงานสอบสวนที่กำลังจะให้นายปฏิพัธน์ เซ็นต์รับทราบข้อกล่าหาทั้ง 2 ข้อหา

พร้อมถามว่า ใครเป็นคนร้องทุกข์ในคดี ไม่มีเจ้าทุกข์ ทำไมถึงแจ้งข้อกล่าวหา วางยาฆ่าผู้อื่น ทำให้ พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จ.ลพบุรี จึงชี้แจงว่า พ่อของ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง เป็นเจ้าทุกข์เอง 

จากนั้น พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนวางยาน้องตอง เป็นผู้สั่งซื้อไซยาไนด์มาจริง ส่วนสาเหตุมาจากความคับแค้นใจกับสามีเก่าของน้องตอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับลูกชาย คือ น้องพอตเตอร์ โดยการวางไซยาไนด์ ไม่ใช่ในอาหารมือสุดท้าย ที่ร่วมกินกัน 3 คน บนอ่างเก็บน้ำ เเละไม่ใช่ในขวดน้ำดื่ม ที่พบใต้เบาะรถ จยย.เพราะยังไม่ได้เก็บตรวจสอบสารพิษจากขวดน้ำ

เเต่ย้ำว่า น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง ได้รับพิษจากไซยาไนด์ ที่ทานเข้าไปไม่ถึง 50 นาที หลังจากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุ สำหรับการทำประกัน นายปฏิพัธน์ อ้างว่า น้องตอง เป็นคนซื้อประกัน เเละ โอนเงินเบี้ยประกันให้บริษัท โดยใช้บัญชีของน้องตองเอง โดยนายเบียร์เป็นเเค่ผู้ออกเงินไปให้ นส.ตองไปซื้อประกันเท่านั้น 

เเหล่งข่าวชุดสืบสวน ให้ข้อมูลทางการสืบสวน ระบุว่า นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ จำนนต่อหลักฐาน ยอมรับสารภาพ ขอกล่าวหาทั้งหมด 2 ข้อหา 1.ติดสินบนเจ้าหนักงานฯ และ2.วางยาฆ่า น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง พร้อมอ้างว่า ตัวเองมีความคับแค้น นายโอ๊ต อดีตสามีเก่าของ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง เกี่ยวข้องกับเรื่องลูกของทั้ง 2 คนของผู้ตาย ที่กำลังดำเนินการเรื่องขอรับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม

ส่วนเส้นทางการหาซื้อไซยาไนด์ นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ อ้างว่า สั่งซื้อมาในราคา 38,000 บาท พร้อมสั่งซื้อแคปซูลยา ทางออนไลน์ทั้งคู่ ก่อนจะนำไซยาไนด์ บรรจุใส่แคปซูล แล้วเอาไว้ภายในบ้าน ของนายเบียร์เอง เเต่ น.ส.ชลดา กินยาผิด เพราะนำไปไว้ใกล้กัน โดยเจตนาสั่งไซยาไนด์มา เพื่อวางแผนฆ่านายโอ๊ต เพราะมีปัญหากันเรื่องลูกของนายโอ๊ต

ส่วนเรื่องประกันชีวิต นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ อ้างว่า ตัวเองกับ น.ส.ชลดารับรู้ ร่วมกัน เป็นคนโอนเงินให้น.ส.ชลดาไปจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต

วุ่น !! ตร.เเจง ไม่มีใครกดดัน ผู้ต้องหา

จากนั้นเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อเเม่ของนายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ เข้ามาบอกน้าสาวว่า ได้นำข้าวให้ลูกชายไปเเล้ว เเล้วให้น้าสาวไปซื้อข้าวอีกทำไม น้าสาวจึงรีบเดินออกจากวงที่ผู้สื่อข่าวรุมสัมภาษณ์ เเล้วรีบเดินเข้าไปหาตำรวจ

ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวน ให้นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา จึงต้องมีการเจรจากัน เเละให้นายเบียร์บอกกับน้าสาวว่าขอให้ออกมาก่อน 

จากนั้นทางหัวหน้าชุดสอบสวน เเละ ทาง พ.ต.อ.จรินทร์ ลำลึก ผกก.สภ.เมืองลพบุรี จึงอธิบายทำความเข้าใจกับน้าสาว ว่าไม่มีใครบังคับให้เซ็นรับทราบข้อหา เเต่ เป็นความประสงค์นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ที่ไม่ต้องการให้น้าสาวอยู่ด้วย เพราะเขาต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับทางพนักงานสอบสวน ยืนยันไม่ได้บังคับให้เซนต์รับทราบข้อกล่าวหา เเละ หลังจากนี้จะเข้าค้นบ้านของน้าสาวด้วย 

หลังการอธิบายจบคุณเเม่เเละน้าสาวก็อยู่ด้านนอก เพื่อรอการนำตัวไปฝากขัง

โดย คุณเเม่ นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ร่ำไห้ หลังทราบว่าลูก ถูกเเจ้งข้อหากล่าวหาหนัก 2 ข้อหา พร้อมพูดตะโกน บอกลูกอยู่ข้างนอกว่า เบียร์อย่าเซ็นนะลูก!!! เบียร์อย่าเซ็นนะลูก!!!  เเม่รออยู่ข้างนอก 

จากนั้น น้าสาว อ้างว่า การเเจ้งข้อกล่าวหา เป็นการกดดัน เพราะทางตำรวจบอกกับหลานว่า หากไม่รับสารภาพจะมีโทษหนัก ตนจึงสงสัยขั้นตอนการทำงานของตำรวจ หากไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมให้น้าสาวอยู่ภายในห้องด้วย ตนเองเชื่อว่าหลานไม่ได้ทำ เเต่การทำงานของตำรวจ มุ่งเป้าไปที่หลานชาย เเละยังไม่เห็นเอกสารใดที่ชัดเจนว่า เป็นเอกสารติดสินบนเจ้าพนักงาน ที่ผ่านมามีเเต่คำกล่าวอ้างว่านายเบียร์ ถูกดำเนินคดีข้อหาดังกล่าว 

ฝากขัง "เบียร์ ไซยาไนด์" ปิดปากเงียบ

จากนั้นเวลาพนักงานสอบ สภ.เมืองลพบุรี คุมตัว นายปฏิพัธน์ ไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ภาค1 จ.สระบุรี

โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวขึ้นรถตู้ นักข่าวพยายามสอบถาม นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ถึงปมการก่อเหตุมีความคับเเค้นเรื่องใดกับ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง เพื่อนสนิท เเละสารไซยาไนด์ ซื้อมาจากไหน 

เเต่นายเบียร์ไม่ตอบคำถามใดๆ เหมือนกับวันเเรกที่ถูกคุมตัวมา

ขณะที่เเม่เเละ น้าตะโกนให้กำลังใจนายเบียร์ ว่าจะไปประกันในชั้นศาล 

สำหรับ นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ ถูกจับกุมในข้อหาความผิดตาม มาตรา 167 ผู้ใดให้ ขอให้ หรือ รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดีหรือพนักงานสอบสวน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใดอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท  สำหรับโทษวางยาฆ่าผู้อื่น มีอัตราโมทษ จำคุกสูงสุด ตอลอดชีวิต เเละถึงขั้นประหารชีวิต 

ยายของเบียร์ ยันตอง ไม่ได้กินอะไรอีก ก่อนรถล้ม 

ต่อมานักข่าวเดินทางไปที่บ้านของ นายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงปรากฏว่าวันนี้ บ้านปิดเงียบ ไม่มีใครอยู่ที่บ้านนักข่าวจึงโทรไปหา ยายตุ้ม ยายของนายปฏิพัธน์ (สงวนนามสกุล) หรือเบียร์ เพื่อสอบถามถามว่า วันที่ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง กลับมาที่บ้านได้กินน้ำ กินอะไรอีกหรือไม่ 

โดยยายของเบียร์ ยืนยันว่า ไม่ได้กินอะไรอีกเลย รวมถึงยาเเก้อาการเเพ้เเมลงทอด น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตองมาถึงบ้าน ก็คว้ากุญเเจรถขี่ออกไปเลย โดยตนยื่นกุญเเจให้เอง ก่อนออกไปเขายังจุ๊บลูกชายตัวเอง 

เมื่อนักข่าวจะสอบถามว่า หลานชายนายเบียร์ เขาเคยพูดถึงความโกรธ คับเเค้นใจกับนายโอ้ต อดีตสามีของน้องตองให้ฟังบ้างหรือไม่

คุณยาย ตัดสายทิ้งไปก่อน 

พ่อเหยื่อ ตอง ไซยาไนด์ ยัน เป็นเจ้าทุกเอาผิดเอง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน คุณเอกราช (สงวนนามสกุล) คุณพ่อของ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือตอง

โดยคุณพ่อ ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ สื่อนำเสนอข้อมูลของลูกสาว และะครอบครัว ไม่ตรงกับความเป็นจริง

วันนี้คุณพ่อ ยืนยันว่า พ่อเป็นไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดกับนายปฏิพัทธ์ หรือเบียร์ เพื่อนสนิทของน้องตองเอง คุณพ่อเสียใจที่นายเบียร์ทำกับลูกสาวของตนอย่างนี้ เป็นเพื่อนที่ไม่มีความจริงใจ สร้างเรื่ิองโกหก สร้างสตอรี่ไว้ใหญ่มาก 

ส่วนกรณีที่นายเบียร์มีอาการชักเกร็ง หลังโดนตำรวจจับกุม

พ่อน้องตอง กล่าวต่อว่า เชื่อว่าเป็นการละคร เป็นการแสดง ล้วนๆ เพื่อเอาตัวรอด เพราะคนชักเกร็งน้ำลายต้องฟูมปาก ตาค้าง มือไม้อ่อน ทิ้งไว้ข้างเปล เเละผลตรวจจากหมอก็ยืนยันชัดว่า นายเบียร์ไม่ได้เป็นอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการเขียนมอบอำนาจ ยกทรัพย์สิน ที่มีอยู่ในต่างประเทศ เงินสด 800,000 ยูเอสดอลล่าห์ ให้กับน้องพอตเตอร์ ลูกชายของตอง 

พ่อตอง ตอบว่า ย้อนถามว่านายเบียร์ จะไปเอามาจากไหน เมื่อก่อนยังขับรถรับจ้างขนผลไม้ในเกาหลี จะไปเอาเงินมาจากไหน หากนายเบียร์มี 28 ล้านบาท จริงเก็บไว้แปลงเพศไม่ดีกว่าหรือ

คุณพ่อ บอกต่อว่า นายเบียร์สร้างเเต่สตอรี่ ไม่มีอะไรจริง แม้กระทั่งวาระสุดท้าย ก่อนที่นายเบียร์ จะถูกฝากขังเข้าคุก ยังจะไปโยนระเบิด โยนความผิดให้คนอื่น อ้างว่าต้องการวางยานายโอ้ต อดีตสามีเก่า พ่อเชื่อว่า นายเบียร์ยังโกหก เพราะลูกสาวตนเลิกกับสามีมาแล้ว ชาตินี้ทั้งชาติเขาไม่กลับมาคืนดีกัน แล้ววจะเป็นไปได้อย่างไรที่ลูกสาว จะเอาขนมใส่ไซยาไนด์ไปให้อดีตสามีกิน วินาทีสุดท้ายก็ยังดิ้น เพื่อให้โทษเบาลงในขั้นศาล ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และคัดค้านการประกันตัว

คุณพ่อ เปิดเผยว่า จากนี้จะนำหลานน้องพ็อตเตอร์ วัย 2 ขวบ กลับมาเลี้ยงเอง เพราะสายเลือดของตนไม่ให้ใครแล้ว ส่วนหากนายโอ้ต อดีตสามีลูกสาว จะนำไปเลี้ยง ก็ให้ พม.ประเมินก่อนว่าเขาดูแลได้ไหม หากนายเบียร์จะมาดกราบขอโทษ ก็ไม่รับ ให้ไปไหว้หมาในกรงดีกว่า ตนไม่รับ แต่จะขออโหสิกรรมให้ หลังจากคดีจบ ก็จะไปนำกระดูกของ น้องตอง ที่ฝากไว้ที่วัดตั้งแต่เดือนกุมพาพันธ์ มาทำพิธี และยังหัวใจข้างซ้ายที่ยังไม่ไหม้  ยังเป็นก้อนเนื้อสีแดง แสดงว่าเขายังมีความเป็นห่วงอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ ลูกสาวเคยมาหา วันที่ตำรวจชุดสืบสวนมาหาข้อมูลที่บ้าน พ่อได้กลิ่น ทั่วบ้าน จึงบอกไปว่า ตอง ไม่มีอะไรนะลูก “