svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เมียคนตายไม่รู้จักมือยิง ไม่มีปัญหาชู้สาว จีบแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว

เมียหนุ่มใหญ่ ถูกรัวกระสุนใส่ กลางถนน ยืนยันสามีไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาวกับใครมาก่อน ขณะที่มีกระแสว่าคนร้ายจะขอเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ปรากฏ ตำรวจเร่งตามจับกุมด้วยความระมัดระวัง คนร้ายยังมีอาวุธปืนติดอยู่ที่ตัวตลอด

กรณีกรณีเหตุหนุ่มใหญ่ถูกรัวกระสุน 9 นัดที่ ร้านค้า หมู่ที่ 5 ตำบลมาบแค อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม  ซึ่งมีภาพวงจรปิดเก็บภาพนาทีสังหารโหดท่ามกลางชาวบ้านและลูกค้าที่กำลังจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่บริเวณร้านดังกล่าว โดยผู้ เสียชีวิตคือ นายธีระ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อาชีพทำเกษตรเลี้ยงกบ ซึ่งบ้านอยู่ติดกับร้านค้าที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ส่วนมือก่อเหตุคือ นายฉัตรเฉลิม สงวนพันธุ์ อายุ 48 ปี  หลังก่อเหตุยังหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณเวลา 19.00 น.เมื่อวานนี้ (วันที่ 31 ก.ค.2567)                                                                                                                                                                                                                                                          

1 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถาม น.ส.ทัศนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายฉัตรเฉลิม ได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีบรอนเทา มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านแล้วได้ตะโกนด่าทอสามีจากนั้นได้เกิดการท้าทายจนสามีเดินออกไปคุยด้วยที่ตรงข้ามบ้าน โดยครั้งแรกที่มีการพูดคุยกันเหมือนเรื่องจะไม่ใหญ่ แต่พอสามีกำลังจะเดินกลับ คนร้ายได้ชักอาวุธปืนขึ้นสามีจึงได้พยายามวิ่งหนีแต่มาชนที่ท้ายรถกระบะล้มลง มือปืนได้รัวกระสุนไป 3 นัด จากนั้นเมื่อสามีล้มลงก็ยังได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดิมยิงกระหน่ำใส่อีกหลายนัดจนนอนแน่นิ่ง ส่วนคนร้ายได้ขับรถกระบะดังกล่าวหลบหนีออกไปท่ามกลางความตกใจ 

นางทัศนีย์ เล่าต่อว่า ที่ได้ยินแว่วแว่วเป็นเสียงของคนร้ายต่อว่าสามีว่าไปมีเรื่องคือการไปจีบภรรยาของเขา ซึ่งโดยปกติสามีไม่เคยมีนิสัยแบบนั้นเพราะมีเมียมีลูก 4 คน อยู่ที่บ้านเช้าก็จะมีอาชีพออกไปเลี้ยงกบที่ไร่เที่ยงก็จะกลับมากินข้าวที่บ้านแล้วกลับออกไปครั้งหนึ่งทุกวัน และสามีเป็นคนดีมากเค้าทำงานเลี้ยงทุกคนในครอบครัว ตอนนี้เมื่อไม่มีสามีแล้วตนเองก็ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแทน อยากจะบอกคนร้ายว่าขอให้ไปมอบตัวและกลับมากราบเท้าสามี ซึ่งตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ออก เนื่องจากยังช็อคอยู่กับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ยืนยันว่าเรื่องชู้สาวไม่มีในครอบครัวแน่นอน 

นายทวิช (สงวนนามสกุล) อายุ 44 คน พี่ชายต่างมารดาผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุการณ์ตนเองเห็นกำลังทำกับข้าวที่หน้าบ้านพี่ชายขับขี่รถจักรยานยนต์จากนอกบ้านกลับเข้ามาถึงที่บ้าน จากนั้นไม่นานคนร้ายได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมาจอดที่หน้าบ้าน แล้วก็มีการตะโกนให้ของลับ ซึ่งก่อนนั้นก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่มีเรื่องอะไรกันมาก่อน ซึ่งคนร้าย ได้มีการท้าต่อยกับพี่ชายจนเกิดการเดินไปคุยซึ่งมือยิงได้ชกมาที่พี่ชายก่อนจากนั้นทั้งคู่ก็ได้เกิดชกต่อยกันตามคลิป โดยเมื่อคนร้ายสู้กับพี่ชายไม่ได้จึงได้ใช้อาวุธปืนขึ้นมากระหน่ำยิง ซึ่งรอบแรกได้ยิงกระสุนออกมาสองถึงสามนัด และพี่ชายของตนเองพยายามจะวิ่งหนีแต่ล้มลง และคนร้ายได้มากระหน่ำยิงรั่วอีกห้าถึงหกนัด ตอนแรกตนเองก็คิดจะเข้าไปช่วยแต่คนร้ายบอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง ตนเองจึงได้แต่มองเพราะไม่ได้เป็นการรุมทำร้ายกัน เป็นปัญหาของคนสองคน แต่ไม่ทราบจริงๆว่ามีปัญหาอะไรกันมาก่อน 

 

ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวมาให้ได้และอยากถามว่าทำไมถึงได้โหดร้ายแบบนี้ ซึ่งตอนนี้ลูกคนเล็กก็ยังเรียน พี่ชายเสาหลักของครอบครัว และขอให้คนร้ายมาขอขมาคนตายเพราะยังไม่ทราบเรื่องว่าเป็นเรื่องอะไร ปกติพี่ชายเป็นคนทำกินไม่ยุ่งกับใคร เย็นกลับบ้านมาเล่นกับลูกและไม่ดื่มเหล้ารักครอบครัว ประเด็นมีข่าวของสื่อบางสำนักบอกว่าเป็นประเด็นของเรื่องชู้สาว ตอนนี้อยากจะให้ช่วยแก้ข่าวให้ด้วยเพราะเขาไม่เคยปรากฏว่ามีประเด็นเรื่องชู้สาวมาก่อน 

 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวนายฉัตรเฉลิม พร้อมของกลางที่ก่อเหตุได้แต่มีกระแสว่าจะพยายามติดต่อเข้ามอบตัวก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าได้มีการติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆเพื่อที่จะเข้าจับกุมตัว โดยต้องมีการใช้มาตรการในการระมัดระวังเนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา 

 

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนเพิ่มในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางญาติยืนยันว่ากระสุนที่ลั่นออกมาจากคนร้ายเข้าตามร่างกายของผู้ตายทุกนัด และทราบว่าภรรยามือหญิงเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ใต้สะพานลอยบนถนนสายตาก้องดอนตูมไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก โดยวันนี้เตรียมจะมีการรับศพมาประกอบทางพิธีทางศาสนาต่อไป 

 

ต่อมาได้มีการพบข้อความแชทกันทางเฟซบุ๊ก โดยนายเอสฯ เป็นคนทักเข้ามาใน Messenger ใน เฟซบุ๊กของนายธีระ ก่อน โดยนายเอส ทักมาว่า หาว่านายธีระไปจีบเมียเค้า ซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวต้นยาง แต่นายธีระได้ปฏิเสธ และมีข้อความด่าทอกันไปมา

 

จากนั้นได้มีการท้าทายกันก่อนจะมาถึงหน้าบ้านและมีการบุกยิงในกรณีดังกล่าวซึ่งต้องรอการตรวจสอบข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสอบปากคำภริยาของมือก่อเหตุครั้งหนึ่ง