ทำแผนผัวโหดหลอนหนักมาก ทั้งเสพยาบ้า และดื่มสุรา เห็นภรรยาเป็นผีเลยฟันดับ
เปิดคำสารภาพ บอกเมียเป็นผีกระสือ คว้าปังตอ ฟันคอภรรยา หิ้วหัวไปทิ้งเล้าไก่ ก่อนแอบตำรวจที่ยุ้งฉางข้าวเพื่อนบ้าน แต่ตำรวจเฝ้าจนออกมาและจับกุมตัวได้ สารภาพเมาหนักมากทั้ง "ยาและเหล้า" จนหลอน จนพามาทำแผนก็ยังหลอนไม่เลิก
เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (28 กรกฏาคม 2567) พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ มอบหมาย ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรมีเดช พนักงานสอบสวน สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม นำตัว นายณริน (สงวนนามสกุล) หรือริน อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา ใช้มีดปังตอลงมือฆ่าตัดคอภรรยาตนเองคือ นางภัทรา (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากฆ่าแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในยุ้งฉางข้าวเพื่อนบ้าน
กระทั่งเวลา 01.00 น.จนแน่ใจว่าตำรวจกลับไปหมดแล้วจึงออกมา เดินกลับเข้าบ้านที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ แต่ก็ต้องพบกับ ตำรวจชุดค้นหาที่เฝ้ารออยู่ใกล้ๆบ้านหลังดังกล่าว เข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนมา สภ.ลับแล โดย นายณริน (สงวนนามสกุล) หรือริน ยังให้การวกวน ไปมา เนื่องจากยังเกิดอาการหลอนค้าง จากการเสพยาบ้า แก้มสุรา
29 กรกฏาคม 2567 ล่าสุด ตำรวจ สภ.ลับแล คุมตัว นายณริน (สงวนนามสกุล) หรือริน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านในระแวงใกล้เคียงมาดูห่างๆ ทั้งนี้ตลอดช่วงทำแผนผู้ต้องหายังพูดจาวกวน ย้ำตลอดว่า ภรรยาโดยผีกะผีกระสือสิงห์ร่าง
ระหว่างทำแผน ภายในบ้านจุดนั่งดื่มสุรากับภรรยา นายณริน บอกว่า มองเห็นภรรยามีผีกะผีกระสือเข้ามาสิง เลยใช้มีด ปังตอจ้วงแทงไป ไม่ได้นับจำนวนครั้ง และเห็นส่วนหัวของภรรยาเป็นผีอีกตัว แต่เป็นหน้าผู้ชาย จึงใช้ปังตอเล่มเดิมเชือดเข้าที่ลำคอให้ขาดออกจากศีรษะ แล้วลากร่างภรรยาไปทิ้งไว้ข้างบ้านพร้อมแทงซ้ำอีกหลายครั้ง เพราะยังเห็ยว่าผียังไม่ออกจากร่างของภรรยา
จากนั้นหิ้วศีรษะโยนทิ้งในเล้าไก่อยู่ใกล้ๆบ้าน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 20 เมตร แล้ววางมีดปังตอไว้ตรงตอไม้ ระหว่างนั้นตกใจเห็นคนมาที่บ้านจำนวนมาก จึงเข้าไปหลบในยุ้งฉางข้าวของเพื่อนบ้าน รอจนคนออกจากบ้านไปหมดแล้ว จึงเดินกลับเข้าบ้าน ตั้งใจจะมาเปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนคาบเลือด จนมาเจอตำรวจ เข้าจับกุม
พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล เผยว่า ในส่วนของผู้เสียชีวิตหลังเสร็จขั้นตอนการนิติเวช ญาติจะรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไป เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณี ส่วนผู้ต้องหาได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบสวนทราบว่า ปกติแล้วนายณริน ผู้ก่อเหตุเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูด แต่มาระยะหลังเห็นมีอาการเพ้อ คาดมาจากการเสพยาบ้า แถมยังมีการดื่มสุราอย่างหนัก คาดเกิดอาการหลอน และมาก่อเหตุดังกล่าว