
20 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสัญชาติเวียดนามและอเมริกัน 6 ราย ที่พบเสียชีวิตภายในห้องพักของโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ ต่อมาพบว่า ทั้งหมดเสียชีวิตจากสารพิษ "ไซยาไนด์" โดยตำรวจเชื่อว่า 1 ในผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุวางยา ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า การตรวจหลักฐานที่เป็นกระเป๋าเดินทาง 8 ใบ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย อย่างละเอียด พบวัตถุพยานในกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิตหญิงชาวเวียดนาม ห่อหุ้มด้วยพลาสติกซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง เเละจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสารไซยาไนด์ ตำรวจเร่งตรวจสอบว่าสารดังกล่าวนำมาจากต่างประเทศ หรือสั่งซื้อในประเทศไทย โดยการพบไซยาไนด์ดังกล่าวจะทำให้บ่งชี้ได้ว่าบุคคลใดเป็นผู้ลงมือสังหารหมู่
นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า มีสารไซยาไนด์ปนเปื้อนในอาหารบางชนิดที่อยู่บนโต๊ะห้องเกิดเหตุอีกด้วย ซึ่งจะหมายความว่าไม่ได้มีแค่ในเครื่องดื่มเท่านั้น และจากภาพอาหารจะเห็นได้ว่า มีอาหารบางชนิดที่ถูกแกะออกจากซีลพลาสติก แต่ก็ยังไม่มีการรายงานว่าเป็นอาหารชนิดใดที่พยสารไซยาไนด์
ทางตำรวจยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่าไซยาไนด์เป็นของบุคคลใด เพราะว่ามีหลักฐานหลายชิ้นและมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน จึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นของใคร แต่จากหลักฐานเบื้องต้นที่พบในขณะนี้ ตำรวจสามารถขมวดปมเหลือผู้ต้อองสงสัยเพียง 2 รายจาก 6 ราย ที่เข้าข่ายเป็นผู้วางแผนสังหาร
รวมถึงตำรวจยังต้องประสานไปยังตำรวจ FBI เนื่องจากชายชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ยังไม่มีข้อมูลปรากฎ และญาติก็ยังไม่มาติดต่อมา ส่วนที่ว่าใครเป็นคนชงชา ตำรวจยังต้องรอผลการตรวจรายนิ้วมือแฝงเพื่อเทียบเคียงหาตัวคนที่ชงชา
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์ตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้การตรวจวัตถุพยาน เร่งดำเนินการตรวจสอบวัตถุพยานให้ครบทุกด้าน ทั้งผลดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ การตรวจหาสารพิษ โดยจะรอผลออกมาให้พร้อมกันทั้งหมดก่อน จะรายงานผู้บังคับบัญชา และแถลงข่าวผลการตรวจสอบทั้งหมดโดยละเอียดต่อไป เนื่องจากมีวัตถุพยาน 60-70 กว่ารายการที่ส่งมาทำการตรวจสอบ โดยทยอยนำส่งมา คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเเถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการได้
ล่าสุดมีการตรวจวัตถุพยาน ภายกระเป๋า ที่ส่งมาเพิ่มเติม จึงต้องดำเนินการให้ครบทั้งหมด เนื่องจากการตรวจสอบวัตถุพยานแต่ละชิ้นต้องใช้ระยะเวลา 8-9 ชั่วโมง จะต้องแยกการตรวจเป็น การตรวจหาดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝง จากการสัมผัสวัตถุพยานพยาน
หากเป็นการตรวจหาสารพิษ ก็จะให้กลุ่มงานยาเสพติด เป็นผู้ทำการตรวจสอบ ดังนั้นขอให้ตำรวจได้ทำงานก่อนเพื่อให้เกิดความครบถ้วนทุกด้าน
ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีพลิกจากประเด็นต่างๆ ที่ชุดสืบสวนสอบสวนทำไว้ ซึ่งจากพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุและการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและญาติของผู้เสียชีวิตทุกคน ทุกอย่างยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าผู้ก่อเหตุเป็นหนึ่งหรือสองคนในจำนวนของผู้เสียชีวิต และไม่มีบุคคลอื่นที่เข้ามาวางยาในที่เกิดเหตุ แต่ชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นดังกล่าวทิ้ง เพราะหากพบพยานหลักฐานอื่นๆ ที่บ่งชี้ไปในประเด็นอื่นก็พร้อมตรวจสอบในประเด็นต่างๆทันที
ญาติทยอย รับร่าง เหยื่อถูกวางยาพิษ
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพที่ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5 ราย ติดต่อขอรับศพออกไปตั้งแต่เมื่อวาน 4 ราย และวันนี้รับศพออกไปเพิ่มอีก 1 ราย คือ น.ส.ธิ เหงียน เฟือง สัญชาติเวียดนาม, น.ส.ธิ เหงียน เฟือง ลาน สัญชาติเวียดนาม,นาย ดิน ซาน ฟู สัญชาติเวียดนาม, น.ส.เชอรีน ชอง สัญชาติอเมริกัน และ นายฮง ฟาม ธาน สัญชาติเวียดนาม
ส่วน นายฮุง ดัง วาน สัญชาติอเมริกัน ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อญาติซึ่งอยู่ในประเทศอเมริกาได้ ชุดสืบสวนสอบสวนจึงประสานกับสถานทูตเอกอัครราชทูตอเมริกัน ให้ช่วยติดตามตัวญาติของนายฮุง มาให้ปากคำและติดต่อรับศพต่อไป