แง้มดีล “บิ๊กโจ๊ก...เป็นต่อ” งานนี้เรียกวินวิน?

ภายหลังวานนี้ (20 มิ.ย.) นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงผลสอบกรณีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยเนื้อหาในการแถลงมีคำสั่งจากนายกฯ ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับไปดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เช่นเดิม 

เสียงจากแวดวงตำรวจ และกูรูวงการตำรวจ บอกว่า สำหรับผลสอบที่ออกมาแบบ “เจ๊า”  เช่นนี้ รู้ล่วงหน้าตั้งแต่มอบหมายให้ “วิษณุ” เป็นผู้แถลงแล้ว และมีข่าวว่ามีการเจรจาแลกเปลี่ยน ซึ่งต่างตอบแทน แต่เจรจาอย่างไรไม่รู้ ใครเจรจาไม่รู้ แต่ผลเป็นดังนี้

• “บิ๊กต่อ” ได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่งเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
• “บิ๊กโจ๊ก” รอลุ้นการยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน (คำสั่ง ตร.ที่ 178/2567) เพราะมีการพูดชี้นำแล้วว่า การออกคำสั่งน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย 
• “บิ๊กต่อ” ได้กลับมาเกษียณในฐานะ ผบ.ตร.อย่างเต็มภาคภูมิ
• “บิ๊กโจ๊ก” ได้หายใจคล่อง กลับมาเป็น รองผบ.ตร. และมีลุ้นได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะคดีที่โดนกล่าวหา อยู่ในอำนาจการไต่สวนของ ป.ป.ช. ซึ่งมีหลักการตามกฎหมายชัดเจนว่า หากข้อกล่าวหาอยู่ระหว่างที่ ป.ป.ช.ไต่สวน จะส่งผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย และการสอบสวนทางวินัยโดยหน่วยงานต้นสังกัด จึงเป็นสาเหตุที่ “บิ๊กโจ๊ก” ดิ้นทุกวิถีทางเพื่อให้คดีเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ไม่ใช่พนักงานสอบสวน 

• ก่อน “บิ๊กต่อ” เกษียณอายุราชการ จะทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ วาระประจำปีไม่ได้ รวมถึงเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ด้วย เพราะ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 จะมีผลบังคับใช้จริงๆ ในเดือน ต.ค. ซึ่ง “บิ๊กต่อ” เกษียณไปแล้ว
• เมื่อ “บิ๊กต่อ” ได้กลับตำแหน่งเดิม เท่ากับหน้าที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ของ “บิ๊กต่าย” ก็จบลงไปด้วย 
• หาก “บิ๊กต่อ” เกษียณ แล้ว “บิ๊กโจ๊ก” ไม่โดนอะไรเพิ่ม จะได้เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในฐานะอาวุโสอันดับ 1

อย่างไรก็ตามให้จับตาดูให้ดี ห้วงเวลานับจากนี้จะมีการร้องทุกข์ดำเนินคดีอะไรกับ “บิ๊กต่าย” หรือไม่ เพื่อผูกขาเอาไว้ ส่งผลต่อจำนวนแคนดิเดตชิง “ผบ.ตร.” ก็จะลดลง “บิ๊กโจ๊ก” ก็จะมีลุ้นมากขึ้น  สมฉายา “แมวยิ่งกว่า 9 ชีวิต”