
7 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงการขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดของอินโดนีเซียว่า ได้นำข้อมูลบุคคลในเครือข่าย ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับยาจากภาคเหนือ หรือ สปป.ลาว ส่งต่อไปยังภาคใต้ แล้วส่งต่อไปยังอินโดนีเซีย เพื่อให้ทางการอินโดนีเซียเชื่อมโยงข้อมูลกัน และขยายผลเครือข่ายยาเสพติดในอินโดนีเซียต่อไป
ส่วนการสืบสวนเครือข่ายในไทยนั้น ทางการไทยจะสืบสวนพยานหลักฐานอื่น ๆ ทั้งการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้อง เส้นทางการเงินที่พบมีการโอนเงินซื้อขาย ค่าจ้างในการดำเนินการ ทรัพย์สินต่าง ๆ และพยานบุคคล ซึ่งหากพบพยานหลักฐานที่ชัดเจนและเชื่อมโยงไปถึงก็สามารถจับกุมฐานสมคบค้ายาเสพติดได้ ซึ่งขณะนี้มีเป้าหมายที่จะออกหมายจับแล้วกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไทย
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ส่วน เสี่ยแป้ง จะมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติหรือไม่นั้น เชื่อว่า ในเชิงพฤตินัยมีความเกี่ยวข้อง แต่ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ทั้งเส้นทางการเงิน ซึ่งจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากบางส่วนมีการโอนเงินไปช่วยชาวบ้าน ต้องสอบพยานบุคคล พฤติการณ์ต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนในทางนิตินัยก่อน เพราะเพิ่งได้ข้อมูลมาเมื่อ 2-3 วัน แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ได้เครือข่ายมาแล้ว อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงข้อมูล
ส่วนบุคคลใกล้ชิดในเครือข่าย เสี่ยแป้ง นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและเป็นคนใกล้ชิดกับเสี่ยแป้ง เนื่องจาก เสี่ยแป้ง เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ขณะที่บุคคลอื่น ๆ ที่ปรากฏในข่าวว่า มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ เช่น ตำรวจหญิงที่ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งนั้น ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนนายพล อ.อ่าง ก็คาดว่า เป็นผู้บังคับบัญชา แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยอมรับว่า การจับกุมเสี่ยแป้งนั้น เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งมีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ เนื่องจากความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการนั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด แต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย
ส่วนการสืบสวนติดตามนายเฟรดดี้ เครือข่ายค้ายาเสพติดของอินโดนีเซียนั้น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเอ่ยถึงชื่อนายเฟรดดี้มาก่อน และหากให้ข้อมูลไปก่อนก็อาจส่งผลต่อการติดตามจับคนได้ แต่ยอมรับว่าทางอินโดนีเซียได้ส่งหมายจับ และรายละเอียดให้ทางการไทยช่วยติดตามจับกลุ่ม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภูมิภาคในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ส่วนกรณีที่ เสี่ยแป้ง ได้ร้องขอความเป็นธรรม จากการที่ถูกดำเนินคดีฐานปล้นทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง กลับไม่ถูกดำเนินคดีด้วยนั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อดำเนินการสอบสวน และให้ความเป็นธรรมกับเสี่ยแป้งแล้ว ย้ำว่าหากพบพยานหลักฐานใหม่ตามกฎหมาย ไม่ใช่ข้อเท็จจริงใหม่ก็สามารถดำเนินคดีได้