svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดแชท สาเหตุแก๊งลูกตำรวจ ก่อเหตุรุมทำร้าย "ป้าบัวผัน" จนเสียชีวิต

เปิดแชท สาเหตุแก๊งลูกตำรวจ ก่อเหตุรุมทำร้าย "ป้าบัวผัน" จนเสียชีวิต ขณะที่ ตำรวจ ยัน ไม่มีการบังคับ "ลุงเปี๊ยก" ให้รับสารภาพ

17 มกราคม 2567 ที่ สภ.อรัญประเทศ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหาย 3 ราย ที่เคยถูกกลุ่มของ 5 เยาวชนแก๊งลูกตำรวจที่รุมทำร้าย "ป้าบัวผัน" หรือ "ป้ากบ" แล้วโยนน้ำจนเสียชีวิต มาร้องเรียนกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และผู้กำกับ สภ.อรัญประเทศ โดยผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นเยาวชน 2 ราย และเป็น LGBT จำนวน 1 ราย 
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายวันนี้ เป็นน้องอายุ 12 ปี ที่ถูกแก๊งนี้ ขับรถตามมาที่ห้อง จากนั้นใช้อาวุธปืนจ่อหัว และรุมกระทำน้อง ก่อนหน้านี้น้องไม่กล้ามาแจความเพราะกลัว  แต่วันนี้จึงกล้าออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองแล้ว ตนจึงได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อมารับเรื่อง เพราะการกระทำของกลุ่มนี้อุจอาจมาก ทำกับหลายคน แล้วทำกับน้อง 12 ปี ยังไม่พอ ยังไปกระทำกับผู้เสียหายที่เป็น LGBT ด้วย ซึ่งตนเองได้นำคลิปออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ และเป็นการกระทำที่กลุ่มนี้ไปตามหาผู้เสียหายที่เป็น LGBT ถึงบ้าน เพื่อไปซัดเขา 3 ทีจนสลบ แล้วพี่เขาก็ไม่กล้าที่จะเอาเรื่อง เพราะไม่มีหลักฐาน

กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า ตนเอง มองว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ มีประมาณ 20 กว่าคน อายุประมาณ 13-18 ปี ซึ่งใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผลการกระทำทั้งหมด ใครที่ตกเป็นเหยื่อต้องออกมา คนถูกกระทำไม่ต้องกลัว และวันนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ข้อมูลจากผู้เสียหายที่พามาอีกว่า มีน้องคนหนึ่งถูกล่วงละเมิด และบังคับให้น้องไปอมอวัยวะเพศ ซึ่งน้องเล่าให้ฟัง ว่าแก๊งนี้ถูกแจ้งความคดีทางเพศ แล้วทำอะไรไม่ได้ แต่เรื่องนี้ต้องถามผู้กำกับว่ามีเรื่องนี้หรือไม่ 

ส่วนเรื่องวีรกรรมของกลุ่มนี้ถือว่า เยอะมาก และยังทราบว่ามีอาวุธปืนของพ่อ มาส่งต่อให้เพื่อนๆด้วย จึงต้องตั้งตำถามให้สุดอย่าให้เรื่องเงียบ โดยตำรวจก็ต้องไปตรวจสอบว่าเป็นปืนของใคร มีปืนจริงหรือไม่ แล้วแหล่งมั่วสุมเป็นความสะเพร่าของใคร ที่ปล่อยให้เด็กมั่วสุมเป็นกลุ่มใหญ่แล้วตอนกลางคืนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกล่าเหยื่อ

ส่วนจะมีเป้าหมายการลักทรัพย์สินด้วยหรือไม่นั้น เพราะใช้ชื่อแก๊งว่า "ตังค์ไม่ออก" ก็คงต้องขอตรวจสอบก่อน

กัน จอมพลัง กล่าวด้วยว่า ตนเองยังได้ข้อมูลแรงจูงใจที่กระทำ "ป้าบัวผัน" ด้วย จากแชทที่คุยกันในกลุ่มเพียงเพราะพาวเวอร์แบงค์หาย จากการที่ไปวิ่งไล่ป้าบัวผันเพราะคิดว่าป้าบัวผันเอาไป แล้วยังไม่พอ ตนเองยังเห็นแชทรุ่นพี่บางคนสปอยน้อง ใครด่าน้องกู มึงเจอกู กูกันจอมพลัง นี่ไงมาเลย

และแชทที่เห็น เป็นการพูดคุยแบบไม่สลด มีการชักชวนกันไปทำร้ายป้าบัวผัน เหตุผลแค่พาวเวอร์แบงค์หาย ซึ่งไม่รู่ด้วยว่า ป้าบัวผันเอาไปจริงหรือไม่ เป็นการทำเอามัน ส่วนที่ว่าพ่อที่เป็นตำรวจ มีส่วนช่วยเรื่องคดีหรืดไม่ ตนเองไม่ทราบ และเท่าที่สอบถามผู้เสียหาย ก็บอกว่าไม่ได้มีพ่อติดต่อมา จึงต้องให้ตำรวจทำการตรวจสอบ

ทั้งนี้ ยังมองอีกว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้กำกับ สภ.อรัญประเทศ เพราะท่านพึ่งมารับตำแหน่ง มาใหม่อาจจะไม่รู้จริงๆ แต่เคสเก่าที่เคยประสานมา ก็ต้องสะท้อนให้เห็นการทำงานของที่นี่ด้วยว่าติดขัดอะไร

"กรณีที่ตำรวจและลุงเปี๊ยกแถลงข่าวเมื่อวาน ก็มองว่า พี่น้องประชาชนคงตัดสินใจเองได้ ผมไม่มีความเห็น แต่ผมมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งตอนแรกการทำงานในพื้นที่ยังกำกวม แต่พอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาก็ได้คำตอบกระจ่างขึ้น แต่คำตอบจะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นการได้คำตอบ ผมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความเดือดร้อนสังคม ที่ผ่านมาผมไม่เคยติดต่อไม่ได้แบบนี้ เพราะทุกคนต้องการความชัดเจน" กัน จอมพลัง ระบุ

ขณะที่ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับ สภ.อรัญประเทศ กล่าวว่า  ได้รับการประสานว่า กัน จอมพลัง จะพาผู้เสียหายมาแจ้งความ ต้องซักถามปากคำก่อนว่า พื้นที่จริงอยู่บริเวณไหน และพฤติการณ์กลุ่มคนร้ายเป็นใครบ้าง หากพบว่าอยู่ในท้องที่อรัญประเทศ จะดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยจะส่งเด็กไปตรวจร่างกาย และนัดสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้วเนื่องจากเป็นเยาวชน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลัง ยังไม่มีการมาแจ้งความดำเนินคดี ส่วนการตรวจสอบพฤติกรรมของเด็ก ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า โดยทั่วไปเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่ถ้าพฤติกรรมการกระทำผิด ต้องดูคดีเป็นหลักหากไม่มีการมาแจ้งความก็ตรวจสอบไม่ได้

ส่วนจะมีมาตรการคุมเข้มเรื่องการดำเนินการกับเด็กวัยรุ่นในพื้นที่อย่างไรนั้น ผู้กำกับ สภ.อรัญประเทศ บอกว่า มีกำจัดตีวงสุรา จุดเสี่ยงจุดล่อแหลม และประชาสัมพันธ์เรื่องการเข้าออกของเด็ก โดย 4 ทุ่มจะให้กลับบ้านไม่ให้มาขี่รถเร่ร่อน ซึ่งเดิมมีมาตรการอยู่แล้วแต่ต้องเพิ่มความเข้มข้นให้มากกว่านี้ ถ้ามีผู้เสียหาย ก็ขอให้มาแจ้งความได้เลย ถ้าเป็นเรื่องทางคดี ยินดีดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

"ส่วนคดีของเรื่องป้ากบ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่รอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของวัตถุพยาน และรอผลดีเอ็นเอของเด็กผู้ก่อเหตุที่ไปเก็บมาเพื่อส่งเปรียบเทียบกับวัตถุพยานเท่านั้น" พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าว

จากนั้น กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหาย เข้าไปพบกับ พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจพูธรจังหวัดสระแก้ว และให้ข้อมูลรับเรื่องเป็นคดีไว้  พร้อมกับสอบสวนปากคำผู้เสียหายทั้ง 3 ราย

เปิดแชท สาเหตุแก๊งค์ลูกตำรวจ ฆ่าป้าบัวผัว เพราะพาวเวอร์แบงค์หาย

มีรายงานว่า วันนี้ (17 ม.ค.) มีการเปิดเผยแชท ที่มีการพูดคุยกันถึงเหตุผลของการฆาตกรรมป้าบัวผัน เป็นแชทที่มีการพูดคุยกันในกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยแชทหน้าแรก มีการพูดคุยในกลุ่มว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง  มีการถามว่า "มึงไปด้วยกันแค่ทำเขาก็พอ  แล้วไอ้แบงค์ไอ้กัสก็ไม่ห้าม"

แชทหน้า 2 เป็นการพูดคุยหลังที่ก่อเหตุกันแล้วว่า "เอาง่ายๆนะน้องพลาดไปแล้วทำอะไรไม่ได้แล้ว" "ถ้าในที่นี้ใครว่าน้องกูนะเจอกู" แล้วมีคนถามว่า "ใครเป็นคนเริ่มบอกให้ทำ"

แชทหน้า 3 เป็นการพูดคุยถึงตอนลงมือฆ่าป้าบัวผัน "ไอ้เชนเป็นคนเริ่มเลย มันบอกที่ทำยายกบ เพราะยายกบทำพาวเวอร์แบงค์มันหาย  แต่มันทำตัวเอง  มันวิ่งไล่เขา  แล้วตกหาย" 

จากนั้นก็มีคนทักท้วงว่า "พาวเวอร์แบงค์อันเดียวพวกเอ็งต้องทำขนาดนี้เลยหรอ แล้วที่เอาไปลงทิ้งน้ำพวกเอ็งไปทำใช่ไหม" และมีหนึ่งในคนก่อเหตุตอบว่า "พวกผมทำหมดเลย"

แชทหน้า 4  มีการถามต่อว่า "แล้วได้แทงไหม" , คนก่อเหตุก็ตอบว่า "ไม่" , ในแชทจะเห็นชื่อไอดี ซึ่งจากข้อมูลเจ้าหน้าที่ยืนยันเป็นหัวหน้าแก๊งนี้ ถามว่า "ตอนเอ็งตีไม่นาน แล้วโยนลงน้ำถึงตาย" , แล้วมี 1 ใน 5 โจ๋ตอบว่า "ตอนแรกโก๊ะเป็นคนบอกให้เชนเตะหน้า"

แชท 5 เป็นการสารภาพต่อว่า "ก็จับกดน้ำพี่" ,  หัวหน้าแก๊งก็ถามต่อว่า "แล้วโก๊ะก็เอาเหล็กตีหัว" , 1 ใน 5 โจ๋ ตอบยืนยันว่า "ไอ้เชน บีบคอจับกดน้ำ"

คนใกล้ชิดลุงเปี๊ยก เล่า สาเหตุลุงเปี๊ยกรับสารภาพ
ลุงเปี๊ยก สามีป้าผัวบัน  

มีรายงานข้อมูลจากคนใกล้ชิดของลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน หรือป้ากบ ที่ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ว่า หลังจากที่ลุงเปี๊ยก ทราบว่า ภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว ก็ถูกตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.อรัญประเทศ เชิญตัวไปสอบปากคำ ในห้องสืบสวน และเมื่อเข้าไปแล้ว ตำรวจเปิดแอร์เย็น ให้นั่งอยู่ในห้องก่อน จากนั้นก็เริ่มสอบสวนลุงเปี๊ยกอย่างเข้มข้น 

โดยลุงเปี๊ยก เล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่า ตัวเองถูกถอดเสื้อ เอาถุงคลุมหัว และใช้โซ่ล่ามที่ข้อเท้า เพื่อบีบบังคับให้ตัวเองเป็นคนรับสารภาพว่า ได้ทำให้ป้ากบเสียชีวิต ด้วยความกลัวและไม่สามารถต่อสู้ได้ ลุงเปี๊ยกจึงตัดสินใจยอมรับสารภาพ เพื่อให้เรื่องจบลง และสาเหตุที่ไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับตำรวจในพื้นที่ เพราะพี่สะใภ้ พี่ชายของลุงเปี๊ยก ยังอยู่ในพื้นที่ สภ.อรัญประเทศ 

ทั้งนี้ ลุงเปี๊ยกจำได้ว่าคนที่เอาถุงคลุมหัว คือ ลูกน้องของตำรวจชุดสืบสวน ใส่ขาเทียม และอายุราว ๆ 50-60 ปี แต่ไม่ใช่ตำรวจ

ตำรวจ ยัน ไม่มีการบังคับ "ลุงเปี๊ยก" ให้รับสารภาพ

ต่อมา พ.ต.ท.นิติธร พิมพ์คำ สารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดของ สภ.ในการทำคดี อธิบายข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ว่า วันที่ 12 ม.ค.ได้เชิญตัวลุงเปี๊ยกมานั่งสอบที่ม้าหินอ่อน จากนั้นเชิญตัวไปสอบที่โซฟาด้านบนโรงพัก ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติ พอกลางคืน ลุงเปี๊ยกก็นั่งสอบที่โซฟาอีก แล้วห้องปฏิบัติการเราเปิดแอร์อยู่แล้ว ไม่มีโซ่ ไม่มีการใส่เครื่องพันธนาการ และไม่มีการใช้ถุงดำครอบหัวแต่อย่างใด

และตั้งแต่เป็นข่าว ตนเองก็รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน  ยืนยันได้ว่า ไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือบังคับขู่เข็ญใดๆ

เมื่อถามว่า ภายในห้องปฏิบัติการสืบสวน มีบุคคลภายนอกด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่า ไม่มี ส่วนกรณีบุคคลที่ใส่ขาเทียม พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านธุรการ ทำเกี่ยวกับเอกสาร ไม่เกี่ยวกับคดี และอยู่คนละห้อง 

ส่วนมีการเข้าไปพูดคุยกับลุงเปี๊ยกบ้างหรือไม่นั้น  พ.ต.ท.นิติธร ระบุว่า ระหว่างนั้นไม่ทราบ เพราะก็มีการสอบปากคำเด็กและเยาวชนด้วย ส่วนวันนั้น เจ้าหน้าที่คนนี้จะได้เจอกับลุงเปี๊ยกหรือไม่ นี่น ถ้าเดินไปเดินมาอาจจะเจอ แต่ไม่มีหน้าที่เข้ามาสืบสวน 

พ.ต.ท.นิติธร ยืนยันย้ำว่า ไม่มีการคลุมถุงดำ เพราะเรามีประสบการณ์มาแล้วคงไม่ทำแบบนั้น

เมื่อถามว่าระหว่างการสอบปากคำมีการบันทึกภาพไว้หรือไม่ พ.ต.ท.นิติธร ตอบว่า ก็มีบ้าง ทั้งตอนที่ผู้กำกับสอบ และตอนที่ตนเองสอบ ส่วนหนึ่งเป็นคลิปภาพที่ได้แถลงเมื่อวานด้วย

ส่วนประเด็นคำให้การเรื่องเก้าอี้ พ.ต.ท.นิติธร ชี้แจงว่า พอได้รับทราบประเด็นเรื่องเก้าอี้ ก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยกให้การกลับไปกลับมา พอเราทราบว่ามีเก้าอี้ ก็ไปตรวจสอบเก้าอี้ ซึ่งครูเก็บไปทิ้งแล้ว เหลือเศษเลือด เศษอิฐ นิดหน่อย แล้วเราก็มานั่งบรีฟงานกันที่ม้าหินอ่อนข้างล่าง

"ตำรวจไปเจอลุงเปี๊ยกที่เกิดเหตุบริเวณบ่อน้ำ แล้วเชิญลุงเปี๊ยกมาที่โรงพัก เพื่อมาซักถาม แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่การจับกุม เป็นการเชิญมาซักถามข้อมูล ไม่ใช่การควบคุมตัว วันนั้น (12 ม.ค.) ลุงมีอาการเมา และเป็นไปได้ที่จะให้การวกไปวนมา คืน 12 ม.ค. ลุงนั่ง และนอนที่โซฟาตลอดทั้งคืน นอนห่มผ้าปกติ ไม่มีใส่กุญแจมือ ให้อิสระ เพราะไม่ใช่ผู้ต้องหา" พ.ต.ท.นิติธร ระบุ