svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"อัยการ" ชี้หลังหมดผัดฟ้อง 31 ธ.ค. ส่ง 14 ปี "กราดยิงพารากอน" รักษาจิตเวช

"อัยการ" เผยปมตีคืนสำนวน "คดีกราดยิงพารากอน" ให้ตำรวจ ชี้ หลังหมดผัดฟ้อง 31 ธ.ค. ส่งตัว 14 ปี "กราดยิงพารากอน" รักษาจิตเวช

29 ธันวาคม 2566 จากกรณีพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ส่งสำนวนให้อัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยกล่าวหาว่าเด็กชายอายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุกราดยิงในห้างดังกลางเมือง ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา แต่รายงานของแพทย์ในการตรวจรักษาผู้ต้องหาที่เป็นเด็กยืนยันว่า ยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ จึงต้องตีกลับสำสวนไปให้ทางพนักงานสอบสวน

ล่าสุด วันนี้(29 ธ.ค.) นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อคืนสำนวนไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องงดการสอบสวนไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 14 เนื่องจากกระบวนการใดๆที่พนักงานสอบสวน ดำเนินการไปโดยไม่ยึดหลักกฎหมายดังกล่าว ก็ต้องถือว่าเป็นกระบวนการสอบสวนที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งคดีนี้เมื่อได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน นางศจีมาศ บัวรอด อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีและคณะทำงานอัยการได้ตรวจสำนวนคดีนี้ แล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่า

ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กยังมีอาการป่วยอยู่ และเป็นคนไข้ของสถาบันกัลยาราชนครินทร์มาโดยตลอด โดยมีใบรับรองประเมินผลการตรวจรักษา ยืนยันว่าผู้ต้องหายังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ เมื่อข้อเท็จจริงทางการแพทย์ยืนยันเช่นนี้ การพิจารณาของพนักงานอัยการไม่มีประเด็นอื่น นอกจากคืนสำนวนกลับไปให้พนักงานสอบสวน รอกระบวนการบำบัดรักษาจากคุณหมอที่ประเมิน ตรวจผู้ต้องหาว่าอยู่ในภาวะปกติ และสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว ภายในอายุความ 20 ปี

เมื่อการสอบสวนชอบด้วยกฏหมาย และทำการสอบสวนเสร็จแล้ว ค่อยส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายอีกครั้ง จากการประสานกับคุณหมอทราบในเบื้องต้นว่า ช่วงเดือนมกราคม ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการตรวจรักษา จะมีการประชุมเพื่อประเมินอาการของผู้ต้องหาอีกครั้ง แต่การควบคุมตัวตามกฎหมายจะครบกำหนดระยะผัดฟ้องครั้งสุดท้าย ในวันที่ 31 ธ.ค. นี้

นายประยุทธ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางคุณหมอและคณะกรรมการตรวจรักษาผู้ต้องหา จะมีการเดินทางไปพบผู้ปกครองของผู้ต้องหา และจะมีการแจ้งว่าเด็กยังมีอาการป่วยอยู่ ทางทีมที่บำบัดรักษาจะขอรับตัวไปบำบัดรักษาต่อ หากผู้ปกครองเข้าใจและอนุญาต คุณหมอก็จะรับตัวผู้ต้องหากลับไปเป็นคนไข้ เพื่อรักษาต่อตามปกติ แต่สมมติว่า ผู้ปกครองไม่ยอมและไม่อนุญาต หากทางคณะกรรมการของแพทย์ประเมินแล้วว่าจำเป็นจะต้องดูแลผู้ต้องหาเพื่อป้องกันอันตราย

สำหรับตัวผู้ต้องหาเอง และสังคมอาจจะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 มาตรา 22 บังคับ ที่จะเอาตัวผู้ต้องหาไปรักษาตัวต่อ ซึ่งระยะเวลาการควบคุมตัวของ แพทย์ผู้รักษา มีกรอบกฎหมายชัดเจนอยู่ใน พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 จะมีการแจ้งผลการตรวจรักษาให้กับพนักงานสอบสวน ทุก 180 วัน ถ้ายังไม่หายก็สามารถขยายได้อีก 180 วันไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ต้องหาจะหายและสามารถต่อสู้คดีได้ เพราะเราไม่สามารถจะนำคนป่วยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ แต่ถ้าหายป่วยเเล้วก็ได้ไม่ต้องรอ 180 วัน ทีมแพทย์ที่รกษาสามารถรายงานให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อดำเนินการสอบสวนได้ทันที