นอนคุก"ไบร์ท ชินวัตร"ฐานปราศรัยหมิ่นประมาทสถาบันเมื่อปี 63

13 ธันวาคม 2566 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณา 914 โดยศาลได้มีการนัดฟังคำพิพากษาคดี ดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ.2887/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง "นายอานนท์ นำภา" "นายพริษฐ์ ชิวารักษ์" หรือ "เพนกวิน" "นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง" หรือ "ไบรท์" "นายภาณุพงศ์ จาดนอก" หรือ "ไมค์" น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ "รุ้ง"

น.ส.จิรฐิตา ธรรมรักษ์ และนายคริษฐ์  อร่ามพิบูลกิจ (หลบหนี) ในฐานะแกนนำคณะราษฎร ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความสะดวกในการจราจร มาตรา 116 ฯ

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค. 2563 ต่อเนื่องกัน โดยพวกจำเลยได้จัดกิจกรรม #ม็อบ 2 ธันวา ไล่จันทร์โอชาออกไป โดยชุมนุมปราศรัย ยุยง ปลุกปั่น พาดพิงให้ร้ายสถาบันด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 3,000 คน บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.พหลโยธิน กทม.เกี่ยวพันกัน ซึ่งคดีนี้พวกจำเลยให้การปฏิเสธ  

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (13ธ.ค.) ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาเฉพาะในส่วนเฉพาะของ นายชินวัตร ที่กลับคำให้การเป็นรับสารภาพเมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จำคุก 3 ปี ปรับ 11,100 บาท

นอกจากนี้ มีรายงานว่าจำเลยอยู่ระหว่างยื่นขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์

ด้าน "นายกฤษฎางค์ นุตจรัส" ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีทุกคน ยกเว้น นายชินวัตร ซึ่งมากลับคำให้การในช่วงเดือน พ.ย. 2566

ส่วนรายละเอียดที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกนายชินวัตรวันนี้ ตนไม่ทราบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนทนายความ แต่ในส่วนนายอานนท์กับพวกที่เเยกออกเป็นอีกสำนวน ให้การปฏิเสธศาลนัดสืบพยานอีกครั้งในเดือน มี.ค. ปีหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากหมดเวลาทำการ ปรากฏว่าไม่พบญาติของนายชินวัตร มายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายชินวัตร ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตามคำพิพากษาต่อไป