svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รองอธิบดีอัยการ ประชุมทีมคดี"เป้รักผู้การ 140 ล้าน" หลังเปลี่ยนคณะทำงาน

30 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วัชรินทร์" รองอธิบดีอัยการสอบสวน เรียกถกทีมสอบสวน คดี เป้ รักผู้การ 140 ล้าน หลังแต่งตั้งทีมคณะทำงานใหม่ รวมทั้งทีม"บิ๊กโจ๊ก"เอี่ยวเว็บพนันบอล

รองอธิบดีอัยการ ประชุมทีมคดี\"เป้รักผู้การ 140 ล้าน\" หลังเปลี่ยนคณะทำงาน
30 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน อาคารถนนบรมราชชนนี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดี 140 ล้าน เรียกประชุม คณะพนักงานสอบสวนทั้งพนักงานอัยการ และตำรวจ โดยมี พลตำรวจตรี กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รักษาราชการเเทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งเป็นผู้เเทน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีว่า เนื่องจากคดีนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งพนักงานอัยการต้องเข้าร่วมการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามกฎหมาย 
รองอธิบดีอัยการ ประชุมทีมคดี\"เป้รักผู้การ 140 ล้าน\" หลังเปลี่ยนคณะทำงาน

ก่อนหน้านี้ได้มีการแต่งตั้งคณะพนักงานอัยการ เพื่อกำกับดูแลคดีนี้แล้ว แต่ภายหลังมีบางส่วนที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไป จึงได้มีการแต่งตั้งชุดทำงานคณะใหม่ขึ้นมา

ขณะที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เดิมทีมี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ก็ได้เปลี่ยนแปลง อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบไปแล้วในวาระการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งล่าสุด
รองอธิบดีอัยการ ประชุมทีมคดี\"เป้รักผู้การ 140 ล้าน\" หลังเปลี่ยนคณะทำงาน
รวมถึงมีตำรวจพนักงานสอบสวนบางนายในคดีนี้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งสืบเนื่องจากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา 

ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างรอให้ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนชุดใหม่เพื่อกำกับดูแลคดีนี้ต่อไป
พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ เข้าพบ บิ๊กโต๊ก ที่สโมสรตำรวจ (แฟ้มภาพ)

ในวันนี้ทางคณะพนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วมกันหารือถึงความคืบหน้าทั้งหมดในคดี เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีและ รวบรวมพยานหลักฐาน จัดทำส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป โดยยืนยันว่าจะเร่งทำสำนวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เบื้องต้น ได้สอบปากคำพยานในคดีนี้ไปแล้วจำนวน 15 ราย และภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นจะมาเปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

สำหรับกรณีนี้ ตำรวจ สภ.คูคต ได้ดำเนินคดี พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และลูกน้อง รวม 10 คน กรณีไปจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แล้วนำตัวไปรีดเงิน 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเคลียคดี จนมีวลีเด็ดว่า “เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา” 
ข้อมูลบางส่วน จากรายงานเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ที่รายงานถึง ผบ.ตร.
ภายหลังกลุ่มผู้ต้องสงสัยไม่พอใจกับพฤติกรรมของตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจชุดดังกล่าว ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา และต่อมา ป.ป.ช. ก็มีคำสั่งให้ส่งสำนวนกลับมาให้ชุดพนักงานสอบสวนเดิมทำคดีต่อ

ในคดีนี้แรกเริ่ม ต้นเรื่องเป็นของพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จากนั้นจึงมีการตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติชาติ ซึ่งมอบหมายให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน แต่ในข้อกฎหมายการกระทำความผิดที่เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายนั้น จะต้องมีพนักงานอัยการเข้าไปร่วมสอบสวนกับตำรวจในชั้นสอบสวนด้วย

เดิมทีเป็นอำนาจของสำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี แต่เนื่องด้วยมีการเกิดเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และเชียงราย ทางสำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี จึงทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด ว่าเห็นควรให้ทำคดีนี้อย่างไร 

ต่อมาอัยการสูงสุด ก็ได้มีคำสั่งให้สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ทำคดีร่วมสอบสวนกับตำรวจ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานทำสำนวน
พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ซ้ายสุด)

logoline