ย้อนรอย"คดีเสือดำ" ลือสะพัดปล่อยตัว "เปรมชัย" วันนี้ (17 ต.ค.)
ย้อนคดีดังในอดีต คดี"เปรมชัย" ล่า "เสือดำ" ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กาญจนบุรี ถูกติดสินจำคุกไม่รอลงอาญา ล่าสุดลือสะพัดปล่อยตัววันนี้ (17 ต.ค.)
17 ตุลาคม 2566 ย้อนรอย"คดีเสือดำ" จากกรณีข่าวครึกโคมเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 นายวิเชียร ชิณวงษ์ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ขณะเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ท้องที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย ซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. 2561
ตลอดเวลานายเปรมชัย ได้ยื่นประกันในชั้นศาลเพื่อต่อสู้คดี เริ่มตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา แต่สุดท้ายศาลได้พิพากษาจำคุก "เปรมชัย" เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- จับ "เปรมชัย" ปธ.อิตาเลี่ยนไทย ล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ ยึดซากเสือดำถลกหนัง
- เผยจับ "เปรมชัย" เพราะจนท.ลาดตระเวน พบซากเสือดำ
ย้อนรอยเหตุการณ์ ฆ่า "เสือดำ" ทุ่งใหญ่นเรศวร
วันที่ 6 ก.พ. 2561 นายสมโภช มณีรีตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช แถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14.00 น นายวิเชียร ชิณวงษ์ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง พบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารอิตาเลี่ยนไทย จำกัด มหาชน จึงเข้าทำการตรวจสอบบริเวณเต๊นท์ที่พัก
จากการตรวจสอบพบ ซากสัตว์ป่าคุ้มครองฯ คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และ ปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก
ใกล้กับจุดที่พบอาวุธปืนที่ซ่อน จนท.เข้าตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมพบ "ซากเสือดำ" ถูกชำแหละ และ ถลกหนัง บริเวณใกล้เคียงพบเครื่องกระสุนปืนเพิ่ม จึงทำการจับกุมเพื่อส่งคดี สภอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ในเบื้องต้น นายเปรมชัย ให้การปฎิเสธ แต่พยานหลักฐานชัดเจน ส่วนแรงจูงใจ ส่วนใหญ่ผู้ที่ครอบครองสัตว์ป่า หรือ ล่าสัตว์ป่า เพราะค่านิยมการมีซากสัตว์ ของหายาก เพื่อประดับบารมี ซึ่งเป็นค่านิยมน่าเป็นห่วง หรือ อาจจะเกิดจากความคึกคะนอง เบื้องต้นน่าจะมีความผิดหลายกระทง อาทิ การห้ามล่าสัตว์ป่า ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองสัตว์ป่า แต่เบื้องต้นความผิด คือ การล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองป่า พ.ศ.2535
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แจ้งข้อหาหนัก "เปรมชัย" และพวก
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ ในขณะนั้น เปิดถึงบันทึกการจับกุมขณะนั้นว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการจับกุม นายเปรมชัย กับพวกรวม 4 คน เพื่อแจ้งความและส่งมอบตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้กับ ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ โดยแจ้งความผิด ประกอบด้วย
- ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
- ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
- ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
- ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
- ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ส่วน ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 จะขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษ
ศาลฎากาตัดสินจำคุก "เปรมชัย" ไม่รอลงอาญา
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษา ดังนี้
- จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต สั่งจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ชดใช้เงิน 2 ล้านบาท ทำให้นายเปรมชัย ถูกนำตัวเข้าเรือนจำทันที
- จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ จำคุก 2 ปี 9 เดือน
- จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน แม่ครัว จำคุก 1 ปี 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี (ไม่ได้ฎีกา)
- จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ นายพราน จำคุก 2 ปี 13 เดือน
แต่จำเลยที่ 1-3 ได้ลดโทษคนละ 8 เดือน จาก พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่แก้ไขใหม่เมื่อปี 2562
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 อยู่ในเรือนจำทองผาภูมิ ปรากฏว่า นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่แล้ว อาการได้ทรุดลง เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ทองผาภูมิ แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครปฐม แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเช่นเดิม โดยนายธานี ทุมมาศ ได้เสียชีวิตลงช่วงกลางเดือน ก.ค.2564 ทำให้คดีดังกล่าวเหลือจำเลยที่อยู่ในเรือนจำ 2 คน คือนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และ นายยงค์ จำเลยที่ 2
อย่างไรก็ตาม การที่นายเปรมชัย ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ (คนขับรถ) ถูกศาลฯพิพากษาจำคุก 2 ปี 17 เดือน และนายธานี (นายพราน)จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 21 เดือน แต่ต่อมาได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ.2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ตาม ป.อาญา มาตรา 2 ลดโทษจำคุกให้คนละ 8 เดือน คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 9 เดือน และจำเลยที่ 4 (เสียชีวิต) คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน
หากนับระยะเวลาการจำคุกของจำเลยทั้งสาม ตั้งแต่วันพิพากษาคือวันที่ 8 ธ.ค.2564 นายเปรมชัย จะพ้นจากเรือนจำประมาณ วันที่ 8 มิ.ย.2567 นายยงค์ จะพ้นจากเรือนจำประมาณวันที่ 8 ก.ย.2567 และนายธานี (เสียชีวิต) จะพ้นจากเรือนจำประมาณ วันที่ 8 ม.ค.2568
ลือสะพัดปล่อย "เปรมชัย" วันนี้ (17 ต.ค.)
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้มีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต โดยมีกระแสข่าวว่าจะมีการปล่อยตัวนายเปรมชัย ออกจากเรือนจำทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ภายในวันนี้ 17 ต.ค.2566
ทั้งนี้ บรรยากาศหน้าเรือนทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อากาศในพื้นที่ไม่ร้อน เจ้าหน้าที่เรือนจำยังทำงานกันปกติ โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำทองผาภูมิเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า ยังไม่ทราบข่าวว่าวันนี้จะปล่อยตัว นายเปรมชัย ออกจากเรือนจำฯ ต้องรอหนังสือสั่งการมาจากกรมราชทัณฑ์ก่อนจึงจะปล่อยตัวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังคงปักหลักรอรายงายข่าวให้ทราบอีกครั้ง
หากมีความคืบหน้า "เนชั่นออนไลน์" จะได้รายงานให้ทราบต่อไป
