"2 ผู้บังคับหมู่" เล่านาทีคุมตัวเยาวชนกราดยิง ชี้ยุทธวิธีเป็นสิ่งสำคัญ
2 ผู้บังคับหมู่ เล่านาที เข้าระงับเหตุกราดยิงกลางห้าง ครั้งแรกในชีวิตราชการ ยอมรับว่า "กลัว" แต่เพราะหน้าที่ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า คือ การปฏิบัติแล้วทำให้ตัวประกันได้อันตราย กล่าวขอบคุณหลักสูตร SOP - Active Shooter ที่ทำให้คุมสติได้ ภูมิใจที่ได้เป็นตำรวจดูแลประชาชน
จากเหตุการณ์สลด ที่เกิดขึ้นภายในศูนย์การค้า สยามพารากอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย โดยมีตำรวจที่ร่วมเข้ารวบตัวผู้ก่อเหตุ วัย 14 ปี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ส.ต.ท.เจษฎากร ประทุมทอง และ ส.ต.ต.วรพล เครือพันธ์ุ ผบ.หมู่(ป.) สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็น 2 ใน 4 นายตำรวจที่เข้าร่วมระงับเหตุ
โดย ส.ต.ท.กร ศรีพรหมและ ส.ต.ท.นันทนัช สุธรรม เป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิปจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ได้เล่านาทีที่เข้าจับกุมว่า ตอนเกิดเหตุได้รับแจ้ง ขอกำลังสนับสนุนให้ไปที่ห้างพารากอนจึงคิดว่าเป็นเหตุนักเรียนตีกัน แต่เมื่อตนและเพื่อนอีก 3 นายเดินทางไปถึง จึงรู้ว่าเป็นเหตุยิงกันภายในห้างสรรพสินค้า
"ยอมรับว่ากลัว เพราะถือเป็น เรื่องใหญ่ที่ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์แบบนี้ ในชีวิตราชการครั้งแรก ต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.), ผู้บังคับการตำรวจนครบาล(ผบก.น.6) และ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ที่ให้ได้รับการฝึกยุทธวิธี ทั้ง SOP และ Active Shooter มาตั้งแต่ต้น จนสามารถควบคุมสติอารมณ์ และสามารถปฏิบัติการตามยุทธวิธีที่ฝึกฝนผ่านมาได้
ซึ่งหลังจากขึ้นบันไดเลื่อนไป พบกับ ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สวป.สน.ปทุมวัน ที่ชั้น 3 ก็ได้แบ่งหน้าที่การทำงาน ทาง ร.ต.อ.ธัญอมร ซึ่งถืออาวุธปืนลูกซองเป็นผู้สั่งการพูดคุยกับผู้ต้องหา ตนเข้าทำการควบคุมตัว ส่วน ส.ต.ท.นันทนัช เป็นผู้สแกนหาเป้าหมาย ตรวจตราความปลอดภัยภายในร้านเฟอร์นิเจอร์
ขณะที่ ส.ต.ท.เจษฎรกร และ ส.ต.ต.วรพล ทำหน้าที่ระวังหลัง Cover ให้จากด้านนอก โดยตอนเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา ตนบอกน้องว่า “ให้ใจเย็นๆ”
หากถามว่ารู้สึกอย่างไรตอนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับหมู่ทั้งสอง ระบุ ตนเองมีความกลัวเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน แต่ด้วยหน้าที่ของการเป็นตำรวจ ก็ต้องเข้าไประงับเหตุ แต่สิ่งที่กลัวกว่าคือกลัวว่าภายในจุดที่คนร้ายอยู่จะมีตัวประกัน และจะทำให้ตัวประกันได้รับอันตราย เมื่อเข้าควบคุมตัวคนร้ายได้ จึงรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ตนยึดถือยุทธวิธีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ อยากเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ เพื่อจะได้นำความรู้จากการอบรม มาปรับใช้ในการช่วยเหลือประชาชน
อยากฝากไปถึงประชาชนว่า ตำรวจดีๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชอบธรรมก็มี ที่เห็นตำรวจไม่ดีเป็นเพียงส่วนน้อย และตำรวจถูกฝึกมาให้พิทักษ์รับใช้ประชาชน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฏหมาย ตนภูมิใจที่ได้เป็น "ตำรวจดูแลประชาชน"
