
4 ตุลาคม 2566 ถือเป็นอีกเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กรณี เยาวชนอายุ 14 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงภายในห้างสยามพารากอน ในขณะที่มีประชาชนจำนวนมาก กำลังเดินจ่ายซื้อสินค้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย
เหตุ "กราดยิง" ในพื้นที่สาธารณะด้วยอาวุธปืน ถือเป็นการก่อเหตุอาชญากรรม ที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยคดีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก แต่ละครั้งเป็นข่าวโด่งดัง สร้างความรู้สึกสะเทือนใจแก่ผู้ที่รับรู้ และยังสร้างแผลในใจ ต่อผู้ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยส่วนของประเทศไทย เหตุกราดยิงในพื้นที่สาธารณะ นับย้อนหลังไปในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2563 เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งมีความอุกฉกรรจ์ มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจำนวนมาก
"จ่าทหาร" กราดยิงกลางห้างดังเมืองโคราช
ช่วงบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ได้เกิดเหตุ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ใช้อาวุธปืนยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี ผู้บังคับบัญชา และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐดรจน์ เสียชีวิตภายในบ้านพัก สาเหตุมาจากปัญหาการซื้อบ้าน ในโครงการสวัสดิการทหาร
จากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ บุกไปที่คลังอาวุธกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 เพื่อชิงอาวุธสงครามออกมา โดยยิงทหารเวร และทหารดูแลคลังอาวุธ มีพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิตอีก 1 นาย
จากนั้นขับรถฮัมวี่ มุ่งหน้ามาที่วัดป่าศรัทธารวม เพื่อตามหาภรรยาของผู้บังคับบัญชาที่ถูกยิงเสียชีวิต ระหว่างทางยังได้กราดยิง ชาวบ้านเสียชีวิตอีกหลายราย กระทั่งทราบว่า ภรรยาของผู้บังคับบัญชาไปที่ห้างในตัวเมืองโคราช จึงมุ่งหน้าไปยังห้างดังกล่าว
เมื่อมาถึง จ.ส.อ.จักรพันธ์ ที่มีอาการเหมือนคนไม่มีสติ ใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชน ที่อยู่ภายในห้างเสียชีวิต บาดเจ็บไปจำนวนมาก ระหว่างที่ก่อเหตุมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไปด้วย
หลังตำรวจรับแจ้ง มีการระดมกำลังตำรวจหน่วยจู่โจม ชุดอรินทราช 26 ,ทีมหนุมาน กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ทหาร คอยช่วยในการลำเลียงประชาชน ที่ติดค้างในห้างหนีออกมา ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังอยู่เป็นระยะ มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ลงพื้นที่กำกับปฏิบัติการปิดล้อมด้วยตนเอง
การปิดล้อมผ่านไปถึงเวลา 09.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ. 2563 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ บริเวณชั้นล่างของห้าง เจ้าหน้าที่เร่งเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมช่วยเหลือประชาชน ที่ยังติดค้างอยู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย
จากปฏิบัติการปิดล้อม และจู่โจมครั้งนี้ หน่วยอรินทราช ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยหน้าพลีชีพ 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย โดยเหตุสะเทือนขวัญเกือบ 20 ชั่วโมง ในปฏิบัติการสยบคลั่งครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 31 ราย บาดเจ็บอีก 58 ราย ผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญ
ผอ.กอล์ฟ กราดยิง 3 ศพ ชิงทองกลางห้างดังเมืองลพบุรี
วันที่ 9 มกราคม 2563 ได้เกิดเหตุคนร้าย บุกกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี ด้วยการแต่งตัวพรางหน้าตา ถือปืนติดลำกล้องเก็บเสียง เดินเข้าไปช้า ๆ จ่อยิงไปที่ รปภ. ซึ่งกำลังนั่งตรวจดูความเรียบร้อย อยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า รวมถึงยังเข้าไปยิงพนักงานร้านทองออโรร่า เพื่อชิงทองคำ รวมถึงยิงประชาชนที่กำลังเดินเลือกซื้อของภายในห้าง
คนร้ายได้กวาดทองรูปพรรณหนักกว่า 28 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป การลงมือของคนร้ายใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีครึ่งเท่านั้น เหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 4 คน แต่ที่น่าหดหู่ใจ คือ หนึ่งในเหยื่อคมกระสุน เป็นเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบ ที่กำลังเดินจูงมือเดินเล่นกับคุณแม่
หลังเกิดเหตุ สังคมได้มีการเรียกร้องให้ตำรวจ เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด มีการระดมมือปราบฝีมือดีเข้ามาทำคดี และต้องใช้เวลาถึง 14 วัน จนสามารถจับกุมคนร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด คือ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี
จากหลักฐานภาพจากวงจรปิด ทั้งภายในห้างและนอกห้าง สรุปลักษณะเฉพาะของคนร้ายพบว่า ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยเฉพาะรองเท้ามีความคล้ายคลึงรุ่น Adidas Tubular X Primeknit Core Black Dark Grey มีราคาเริ่มต้น 7,000 - 8,000 บาท แต่เดินขากะเผลก บางช่วงลงน้ำหนักไม่ได้ ส่วนอาวุธปืนเป็นรุ่น “CZ P 01 Tactical” ขนาด 9 มม. เป็นปืนที่มีราคาสูง และติดลำกล้องลดเสียงได้อย่างดี โดยคดีนี้เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 66 ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ
อดีตตำรวจกราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เป็นอีกเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นดับเด็ก ๆ ในสถานที่ ที่ไม่มีใครคาดคิด เหตุการณ์เริ่มจากช่วงเช้า นายปัญญา คำราบ อายุ 34 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอดีตตำรวจ ที่ถูกให้ออกจากราชการ จากคดียาเสพติด เดินทางไปขึ้นศาล
จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 ได้ขับรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีขาว ออกจากบ้านเพื่อไปรับลูกชาย ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยผู้ก่อเหตุสะพายย่าม ที่ทั้งมีอาวุธมีด และปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมทั้งอาวุธปืนลูกซอง เมื่อจอดรถหน้าอาคารปรากฏว่า ไม่เจอลูกชาย อาจจะเกิดอาการเครียด ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงพักกลางวัน เด็กเล็กก่อนวัยเรียนอายุ 2-5 ขวบ กำลังนอนหลับ แมีครูพี่เลี้ยง 6 คน ดูแลอยู่
นายปัญญา ได้ใช้อาวุธปืน ยิงพ่อลูกที่อยู่ด้านหน้าศูนย์ฯ เสียชีวิตทันที 2 คน จากนั้นจึงเดินเข้ามาในอาคารอย่างใจเย็น ก่อนใช้มีดฟันครูพี่เลี้ยงที่เห็นเหตุการณ์ และพยายามที่จะปิดประตูไม่ให้เข้า เสียชีวิต 2 คน ส่วนครูพี่เลี้ยงอีก 4 คน ที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกใจ วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง
แต่สิ่งที่สร้างความสะเทือนขวัญไปยิ่งกว่า คือ การที่ นายปัญญาบุกเข้าใช้มีดฟันเด็กเล็กที่กำลังนอนหลับเบื้องต้นเด็กเสียชีวิต 24 คน หลังจากนั้นบุกเข้าไปทำร้ายคนภายใน อบต.อุทัยสวรรค์ เสียชีวิตอีก 2 คน
จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไป ทางบ้านหนองกรุงศรี มุ่งหน้าไปบ้านท่าอุทัย ระหว่างทาง เจอประชาชนขี่ จยย.ผ่านมา ก็ขับรถพุ่งชน และใช้ปืนยิงซ้ำ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บไปเสียชีวิตที่ รพ. รวม 9 คน
จากนั้นเวลาประมาณ 14.30 น. นายปัญญา ได้ขับรถเข้าไปในซอยที่บ้านท่าอุทัย ก่อนใช้น้ำมันราดจุดไฟเผารถตัวเอง แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน ใช้ปืนพกขนาด 9 มม. ยิงเมีย พร้อมลูกชาย เสียชีวิตกลางบ้าน แล้วลั่นไกยิงตัวเองตายตาม รวม 3 ศพ ทำให้โศกนาฏกรรมครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 38 ราย บาดเจ็บ 10 คน เหตุการณ์ผู้ก่อเหตุปลิดชีพตัวเอง
จะเห็นได้ว่า "เหตุการณ์กราดยิง" ที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด รวมถึงทั้งสามเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้น ล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ปัญหาสุขภาพจิต อารมณ์ ของผู้ก่อเหตุ รวมถึง ปัญหาการใช้อาวุธปืน สามารถหาได้ง่าย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันป้องกันและแก้ไข ผ่านการถอดบทเรียน จนนำมาสู่มาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ
ขณะที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ในการสร้างความปลอดภัย ให้กับตัวเอง ด้วยการมี "สติ" และปฏิบัติตามคำแนะนำ "หนี-ซ่อน-สู้" ที่ใช้ปฏิบัติตามหลักสากล