
4 ตุลาคม 2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ทองท่า สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. เพื่อแจ้งเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในความผิดตามมาตรา 157 และ ร้องขอให้ช่วยตรวจสอบที่ไปที่มาของทรัพย์สิน หลังเชื่อว่ามีฐานะร่ำรวยผิดปกติ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับเรื่องแรกเป็นการแจ้งเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก จากกรณีขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT เข้าตรวจค้นบ้านพักจำนวน 5 หลัง ภายในซอยวิภาวดี 60 เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ส่วนอีกเรื่องเป็นกรณีที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า ให้เงินลูกน้องเดือนละนับล้านบาท โดยไม่มีที่มาที่ไปของเงินว่าได้มาจากสิ่งใด จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบเพราะถือว่าเข้าข่ายพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ
ส่วนกรณีอดีต นายตำรวจ ยศ พล.ต.ต. รายหนึ่ง ที่เป็นที่ปรึกษาของบิ๊กโจ๊ก มีเส้นทางการเงินเกี่ยวพัน กับบัญชีม้าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์มินนี่ หลังพบว่า มีเงินจากบัญชีม้าโอนไปให้ทุกเดือนๆละ 50,000 บาท ในส่วนนี้อยากให้ทาง บิ๊กโจ๊กช่วยออกมาชี้แจงด้วยว่าเป็นเงินค่าอะไร
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยนำข้อมูลเว็บพนันออนไลน์ ในพื้นที่ภาคตะวันออก กับภาคอีสาน จำนวน 2 เครือข่าย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับ รองแจ๊คกี้ นายตำรวจตำแหน่งรองผู้การ เพื่อนร่วมรุ่น 47 และ พ.ต.อ.แดนไพร ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก ไปให้กับเจ้าตัว แต่จนถึงขณะนี้ กลับไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ทั้งที่เคยรับปากว่าจะดำเนินการให้ ภายใน 7 วัน แต่สุดท้ายก็กลับเงียบเฉย
“เรื่องดังกล่าว จึงเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า บิ๊กโจ๊ก ที่ใครต่อใครบอกว่าทำงานเก่ง แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับเพื่อนตัวเองกลับนิ่งเฉย ทั้งที่มีข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมด” นายอัจฉริยะ กล่าวย้ำ
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ตั้งด่านจับผู้กระทำผิดมาบังคับให้ยอมเปิดบัญชีม้าแลกไม่ถูกดำเนินคดีนั้น ในวันพรุ่งนี้จะพาพยานปากสำคัญ มาเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ในช่วงบ่าย ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีข้อมูลพยานหลักฐานทุกอย่าง รู้ว่าใครเป็นคนพาไปเปิดบัญชี และรู้ว่าใครเป็นคนนำบัญชีม้าดังกล่าวไปใช้งาน