
3 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจชาติ ในการประชุมรับมอบแนวทางการบริหารราชการจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และนายตำรวจระดับบังคับบัญชา เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินออกจากห้องประชุม กลับเข้าห้องทำงานของตน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนที่จะมีการประสานว่าจะออกมาให้สัมภาษณ์ แต่ก็แจ้งยกเลิกในภายหลัง ซึ่งในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังเก็บอุปกรณ์กันอยู่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินออกจากห้องอีกครั้ง จึงเป็นจังหวะที่สื่อมวลชนได้สอบถามคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนเองไม่มีคดีความใดๆ ติดอยู่ แต่คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นคดีของลูกน้องทั้ง 8 คน ซึ่งทั้งหมดจะต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาลเอง
ส่วนกรณีการเปิดเผยของนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ ระบุจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ในวันที่ 5 ตุลาคมนั้น ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีการแต่งตั้งทนายและยังไม่ได้มีการเซ็นตั้งทนายใดๆ จึงไม่ทราบว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์ดังกล่าวคือเรื่องอะไร และจะเกิดขึ้นเมื่อไรบ้าง ให้ไปถามตัวทนายความเอง ซึ่งนายอนันต์ชัยเป็นทนายที่เข้ามาแก้ต่างในคดีของลูกน้องทั้ง 8 คน ไม่ใช่คดีของตน
ส่วนกรณีของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นตำรวจ ปปป.ให้ดำเนินคดี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เอาผิดกับตำรวจทั้ง 8 นาย หรืออาจรู้เห็นกับการกระทำความผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบ และให้ไปถามนายอัจฉริยะเอง
"ก่อนที่ พล.ต.อสุรเชษฐ์ จะแหวกทางจากสื่อมวลชนลงมาขึ้นรถออกจากสำนักงานไป"