หนุ่มพนันร้องเพจสายไหมฯถูกคนบ่อนกระทืบ ปมเซลฟี่รายงานแฟน

23 กรกฎาคม 2566 นายเอ (นามสมมติ) หนุ่มนักพนันเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกกลุ่มชายดูแลบ่อนการพนัน ย่านสมุทรปราการ รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุมาจากการใช้มือถือถ่ายเซลฟี่เพื่อรายงานตัวกับแฟนสาว

นายเอ เล่าให้ฟังว่า กลางดึกคืนวันศุกร์ต่อเนื่องเช้าวันเสาร์ เวลาประมาณ 01:00 น. หลังจากเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนอีกกลุ่ม ให้เดินทางไปสมทบกับเพื่อนที่อยู่ภายในบ่อน โดยไปถึงเวลาประมาณ 02:00 น. และได้ร่วมเล่นการพนันประมาณ 1 - 2 ครั้ง ก่อนที่แฟนสาวจะ LINE มาสอบถามทำไมถึงไม่กลับบ้าน ตนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือเตรียมถ่ายรูปเซลฟี่เพื่อส่งรูปยืนยันกับแฟนสาวว่าไม่ได้ไปอยู่กับใคร เป็นเหตุให้กลุ่มคนที่ดูแลบ่อนเข้ามาสอบถามและกล่าวหาว่าตนถ่ายรูปส่งตำรวจ 



ตนพยายามอธิบายและให้ตรวจสอบมือถือว่า มีการพูดคุยกับแฟนสาวจริงๆ แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ยอมเชื่อและได้ยึดโทรศัพท์มือถือไปทำการลบข้อมูลทั้งหมด และลากไปนอกบ่อนและเริ่มทำร้ายร่างกาย ตนจำได้ว่า มีประมาณ 4 - 5 คน โดยเมื่อทุบตีเสร็จก็กักขังตนไว้ในบ่อนพนันจนถึงเวลา 06.00 น.แล้วลากตนไปตรวจค้นที่ห้องพักก่อนจะยอมปล่อยตัว พร้อมคำขู่ห้ามแจ้งตำรวจ ด้วยความหวัดกลัว จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสายไหมต้องรอด เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ผู้เสียหาย ยังชี้แจงอีกว่า ส่วนโทรศัพท์มือถือของตนเองที่ในวันดังกล่าวสามารถนำเข้าไปภายในบ่อนพนันได้ ซึ่งปกติ จะมีการยึดจากนักพนันทุกคนไว้ ที่บริเวณหน้าบ่อน แต่วันดังกล่าวอาจเป็นเพราะช่วงที่ตนเองเดินทางเข้าไป มีคนจำนวนมากเดินทางเข้าไปพร้อมกัน อาจทำให้หลุดรอดและโทรศัพท์มือถือก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตน  

ตนยอมรับว่าเล่นพนันที่บ่อนแห่งนี้ 2 - 3 ครั้ง ที่ผ่านมา รวมถึงครั้งล่าสุดก็ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะหรือปากเสียงกับใครภายในบ่อนพนัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนขอยืนยันว่ามาจากการที่ตนเองใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเพื่อต้องการจะส่งยืนยันกับแฟนสาวว่าไม่ได้ไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น

โดยหลังเกิดเหตุ ตนพยายามเข้าแจ้งความ แต่เพื่อนทักท้วงเอาไว้ว่า บ่อนการพนันแห่งนี้เปิดมานานและอยู่ในย่านชุมชน ซึ่งเชื่อว่ามีคนคอยเป็นแบคอัพให้ จึงอยากให้ตนเองคิดให้ดี หากจะไปแจ้งตำรวจ 

นายเอกภพ ระบุว่า ตัวบ่อนพนันเอง ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว และเมื่อมีกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลสถานที่มาก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ก็ยิ่งทำผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น



วันนี้ตนจะพาผู้เสียหายลงพื้นที่และจะพาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งเป็นเจ้าของที่เกิดเหตุเพื่อให้เข้ามาจัดการในคดี ที่ผ่านมา การติดต่อร้องขอความช่วยเหลือในลักษณะนี้ ผู้เสียหายไม่ยอมเปิดตัว เนื่องจากเป็นแรงงานต่างด้าว และเกรงกลัวว่าหากมีการเปิดเผยเรื่อง จะไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้

นายเอกภพ ระบุ ขณะนี้ข้อมูลบ่อนการพนันในพื้นที่รอบกรุงเทพ พบการเปลี่ยนรูปแบบด้วยการตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ ประมาณ 9 - 10 เครื่อง เปิดให้ผู้คนเข้ามาเล่นการพนันออนไลน์ผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ เริ่มจากพื้นที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี, สมุทรปราการ, นครปฐม และ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อเปิดโปงเครือข่ายแบบนี้ 
 

"การตั้งบ่อนการพนันออนไลน์ลักษณะนี้ อยู่ใกล้กับสถานที่ทางศาสนาในบางพื้นที่แล้ว ซึ่งนอกจากจะไม่เกรงกลัวกฎหมายแล้ว ยังไม่สนใจต่อสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย" นายเอกภพ กล่าว
 

ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่าย นายเอกภพ พร้อมผู้เสียหาย พร้อมกับทีมสื่อมวลชน ร่วมเดินทางลงพื้นที่สำรวจจุดตั้งบ่อนพนัน โดยระหว่างรายงานข่าวจากพื้นที่ว่า ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นบ่อนการพนันดังกล่าวและสามารถควบคุมตัวนักเล่นการพนันได้ทั้งสิ้น 15 คน และขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประสานจากผู้เสียหายที่อยู่กับเพจสายไหมต้องรอดให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อที่จะสามารถดำเนินการติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนในบ่อนพนันที่ร่วมทำร้ายร่างกายมาดำเนินคดี

แต่เมื่อเดินทางไปถึงที่ตั้งของบ่อนพนัน พบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ติดกับลานจอดรถของตลาดด่านศรีนครินทร์ ด้านล่างต่อเติมคล้ายเปิดเป็นสถานบริกา ด้านบนเป็นที่พัก โดยผู้เสียหายยืนยันว่า บริเวณชั้นล่างของอาคารแห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้งบ่อนการพนันที่ตนถูกทำร้าย พร้อมพาทีมสายไหมต้องรอดไปชี้จุดที่มีการลากตัวออกมาจากบ่อนมาทำร้ายร่างกายบริเวณด้านนอก 



เมื่อทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบพบว่า ที่ประตูด้านในมีการทำช่องระดับสายตา ซึ่งเป็นลักษณะของประตูที่พบได้ทั่วไปตามสถานที่ที่มีการเปิดให้มีการเล่นการพนัน เพื่อใช้ในการตรวจสอบคนที่เดินทางมาถึง ก่อนจะเปิดประตูให้ ด้านในพบว่ายังคงมีสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ วางอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึง โต๊ะที่มีลักษณะคล้ายโต๊ะพนันวางอยู่บริเวณกลางห้อง และยังสังเกตุเห็นว่า บริเวณฝ้าอาคารด้านใน มีสายไฟ ระโยง ระยาง คล้ายมีการเดินสายสัญญาณสำหรับกล้องวงจรปิดออกจากจุดต่างๆ

วินรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ใกล้กับสถานที่แห่งนี้ ยืนยันว่า สถานที่แห่งนี้เคยเปิดเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ แต่ปิดไปนานแล้ว ส่วนบ่อนพนันไม่เคยเห็นว่ามีใครเข้ามาเล่นหรือมาเปิดลักษณะตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่า เมื่อช่วงเช้า มีตำรวจเข้ามาจับกลุ่มนักเล่นการพนันที่ลักลอบเล่นไฮโลขึ้นรถไปประมาณ 2 คัน ที่ด้านหลังของตัวอาคาร ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับตัวอาคาร ไม่ทราบ

ขณะที่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้เป็นบ่อนการพนันที่ลักลอบเปิดจริง ที่ผ่านมา ถูกปิดไปแล้วหลายครั้ง แต่ใช้เวลา ไม่เกิน 1 เดือนก็จะกลับมาเปิดขึ้นอีก พร้อมชี้ให้ทีมข่าวดูถึงขยะกองหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านข้างของตัวอาคาร ติดกับถนนภายในซอย ยืนยันว่า กองขยะจำนวนนี้เป็นกองขยะจำนวนต่อวันที่มาจากสถานที่แห่งนี้ โดยเมื่อทีมข่าวได้สำรวจภายในกองขยะและจุดใกล้เคียงพบว่า มีไพ่ที่เป็นอุปกรณ์การเล่นการพนันตกหล่นอยู่จำนวนหนึ่ง 



ด้านคนขับรถทัวร์ ระบุ ในช่วงเช้า ตนไม่เห็นว่ามีตำรวจเข้ามาจับกุมใครในบริเวณที่ตัวเองจอดรถอยู่ แต่อย่างใด อีกทั้งกลุ่มของตนซึ่งจอดรถรอรับส่งพนักงานโรงงาน ตั้งแต่ช่วงเช้าก็ไม่เห็นว่ามีการเข้ามาจับกุมแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ทีมสายไหมต้องรอดเข้าตรวจสอบบริเวณสถานที่ดังกล่าว ได้มีตำรวจสายตรวจเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะเข้ามาสังเกตการณ์ โดยใช้ระยะเวลาไม่นานก่อนจะขับขี่รถจักรยานออกไปโดยทันที

เบื้องต้น ทีมสายไหมต้องรอดพาผู้เสียหายไปทำการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สำโรงเหนือ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ