
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมานายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับเพื่อนร่วมรุ่นของ “บิ๊กโจ๊ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) และทีมชุดสืบสวนสอบสวนที่ทำคดีของ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี(ผบก.ภ.จว.ชลบุรี)กับพวก ร่วมกันรีดเงินผู้ต้องหาในคดีพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทว่า โดยอ้างว่าชุดสืบสวนสอบสวบชุดดังกล่าวร่วมกันทำเว็บพนันออนไลน์และมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,000 ล้านบาท
โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า วันนี้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.ไซเบอร์เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ 3 นาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ เครือข่ายมาเก๊า 888 และอื่นๆ โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท
ตำรวจทั้ง 3 นาย เป็นตำรวจระดับรองผู้บังคับการ ยศพันตำรวจเอก(พ.ต.อ.) ซึ่งมี 2 คน สังกัดอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. และอีก 1 คน อยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี(บก.ภ.จว.ชลบุรี) โดยทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นเจ้าของเว็บ พร้อมให้นอมินีดูแลแทน ส่วนตัวเองจะคอยเคลียร์หน้าเสื่อให้ และมีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมด้วย
ก่อนหน้านี้ที่ ตนนำพยานหลักฐานเรื่องเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 และเว็บเครือข่ายอื่นๆ มาให้กับตำรวจไซเบอร์( บช.สอท.) นั้น ตอนนี้ได้พบความเชื่อมโยงไปถึงตำรวจทั้ง 3 นาย จึงมาแจ้งความให้เอาผิดเพิ่มเติม แต่ขอยังไม่เปิดเผยว่าหลักฐานดังกล่าวคืออะไร
นอกจากนี้ ตำรวจทั้ง 3 นาย ยังเป็นชุดสืบสวนของ “บิ๊กโจ๊ก” ที่เป็นชุดทำคดี ผู้การฯชลบุรีกับพวก ร่วมกันรีดเงินผู้ต้องหาพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทด้วย โดยเป็นระดับมือซ้ายมือมือขวาของบิ๊กโจ๊ก แสดงให้เห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติ คนของตัวเองไม่จับกุม แต่ยังเอามาทำคดีอื่น โดยใช้วิธีสกปรก มีลิ่วล้อด้วย
นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตำรวจชุดนี้มีการแอบอ้าง “บิ๊กโจ๊ก” ว่าได้สั่งการให้ไปอุ้มพยานมาให้การและปรักปรำบุคคลต่างๆในคดีรีดเงิน 140 ล้าน ซึ่งตนได้พูดคุยกับเหยื่อที่ถูกอุ้มและถูกบังคับให้ไปการแล้ว ซึ่งเหยื่อรายนี้เป็นคนของ “นายเป้” ผู้ต้องหาที่ถูกรีดเงิน 140 ล้านบาท โดยในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายนนี้ ตนจะนำเหยื่อมาแถลงข่าวรายละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมีการยืนยันว่า กลุ่มของ “นายเป้ ไม่ได้ต้องการจะแจ้งความตำรวจไซเบอร์(บช.สอท.) แต่ถูกปั้นพยานเท็จขึ้นมาเพื่อเอาผิดคนที่ไม่ใช่คนของตัวเอง
นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ตนจะดำเนินคดีกับผู้กำกับการ สภ.คูคต ด้วย ที่ปล่อยให้มีคนนอกมาควบคุมการสืบสวนในคดีนี้ ซึ่งตอนนี้ได้ยื่นเรื่องให้ บก.ปปป. ดำเนินการแล้ว คาดว่าจะมีการแจ้งความในสัปดาห์หน้า และตนยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดคดีนี้ จึงต้องมีการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดเหตุถูกรีดเงิน หรือพื้นที่ที่นายเป้ถูกจับกุม ซึ่งตนทราบมาว่า บิ๊กโจ๊กมีเพื่อนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็อาจจะควบคุมคดีได้ง่ายกว่าพื้นที่นครบาล