รวบแล้ว “เจ๊เปิ้ล - สามี” หลอกขายที่ดินทิพย์เชียงใหม่ เสียหายกว่า 100 ล้าน

15 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้า กรณีผู้เสียหายจำนวนมากถูก "เจ๊แอปเปิ้ล" นางพิชามญชุ์ และสามี หลอกซื้อที่ ดินทิพย์ ในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยขายเป็นเงินผ่อนรายเดือนระยะยาว ไม่มีดอกเบี้ย แต่หลังจ่ายเงินงวดตามสัญญา กลับพบว่า ที่ดินจัดสรรที่ซื้อไว้ ไม่มีการพัฒนาระบบ สาธารณูปโภค และที่ดินดังกล่าว ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของบริษัทที่ผู้เสียหายซื้อ มูลค่าความเสียหายเกินกว่า 100 ล้านบาท ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• สองผัว-เมีย ถูก "เจ๊แอปเปิ้ล" หลอกซื้อที่ดินทิพย์ เคราะห์ซ้ำรถชนดับคู่
• เหยื่อร้อง ตร.เชียงใหม่ ถูกหลอกขาย "ที่ดินทิพย์" สูญเงินกว่า 100 ล้าน

ล่าสุด ภายหลัง ตำรวจ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีการออกหมายจับ นางสาวพิชามญชุ์ และนายคณิศร ผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยติดตาม ผู้ต้องหาทั้งสองราย 

หลังจากได้รับการประสานข้อมูล พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ทำการวิเคราะห์ข้อมูล จนเชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง จะใช้เส้นทางถนนหลวง เชียงใหม่- นครราชสีมา เป็นเส้นทางหลบหนี 

จึงวางแผนตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อปิดกั้นช่องทางหลบหนี บนเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะใช้หลบหนีทันที จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ออกจากปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มุ่งหน้าไปยัง จ.นครราชสีมา

ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย. ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนข้อมูล จากรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี พบว่า กำลังใช้ ทางหลวง หมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว มุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา จึงได้ประสานข้อมูล ตำรวจทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าทำการสกัดจับ พบรถยนต์คันดังกล่าว ได้ที่บริเวณ ทล.201 กม.29 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต่อเนื่อง บริเวนริมถนน ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนจะพบว่า มี นางสาวพิชามญชุ์ เป็นคนขับ
 

จากนั้นจึงได้เกลี้ยกล่อม นางสาวพิชามญชุ์ ให้ติดต่อไปยังนายคณิศร ผู้ต้องหาอีกราย จนยอมมอบตัว ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ. นครราชสีมา สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า พวกตนไม่รู้เห็นและไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงดังกล่าวแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป