ไล่ล่าคนร้าย บุกเดี่ยวจี้ร้านสะดวกซื้อ 2 แห่งในคืนเดียว กวาดเงินครึ่งแสน

เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ ( 29 พฤษภาคม 2566 ) พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นำกำลังตำรวจ สภ.พัฒนานิคม เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ 2 แห่ง ได้เงินสดไปจำนวนหลายหมื่นบาท  

จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุแรกที่ร้านสะอาดซื้อปากซอย 13 หมู่ 1 ตำบลดีลัง มุ่งหน้าอำเภอพัฒนานิคม พบมีพนักงานขาย 1 คน หญิง 2 คน ยืนรอตำรวจอยู่หน้าร้าน  ให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ขณะพนักงานหญิง 2 คน อยู่เคาทน์เตอร์ มีลูกค้าเป็นชาย ขับขี่จักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีขาว เบาะนั่งสีน้ำตาล มาจอดหน้าร้าน เดินเข้ามาในลักษณะยังสวมหมวดกันน็อกเต็มใบสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน แถบแขนสีเหลือง มีผ้าสีส้มปิดคอไหล่มิดชิด  มือขวาถือมีดปลายแหลมคล้ายเป็นมีปอกผลไม้  มายืนหน้าเคาทน์เตอร์

ก่อนเอามีดขึ้นมาชี้หน้าพวกตนให้ส่งเงินมาให้  พวกตนกลัวจะมีอันตรายจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบที่หลังร้าน  จากนั้นคนร้ายได้เดินอ้อมเข้ามาที่เคาทน์เตอร์หยิบเอาเงินสดในช่องเก็บเงินไปได้  รวมจำนวนทั้งหมด 20,700 บาท และบุหรี่อีก 3 ซอง ซึ่งช่วงเกิดเหตุไม่มีลูกค้าคนอื่น ประกอบกับร้านค้าด้านหน้าร้านก็เก็บไปหมดแล้ว  ทำให้ไม่มีคนมาช่วยเหลือ จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่จักรยานยนต์ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางแยกซอย 12 เลี้ยวขวาขึ้นถนน 21 สายพุแค - หล่มสัก 

ผ่านไปประมาณ 10 นาที ห่างจากจุดแรกประมาณ 10 กิโลเมตร คนร้ายรายเดิมได้ไปก่อเหตุซ้ำอีกที่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งอยู่ปากซอยถนนบ้านวังเพลิง หมู่ 5 ตำบลดีลัง  ซึ่งร้านเกิดเหตุรายที่ 2 นี้อยู่ใกล้กับป้อมจุดสกัดตำรวจอีกด้วย โดยพฤติการณ์คนร้ายรอจังหวะที่ภายในร้านไม่มีลูกค้ารายอื่น จึงเข้าไปยืนหน้าเคาท์น์เตอร์  ใช้วิธีการคล้ายกัน  ด้วยการชักอาวุธมีดไปข่มขู่จี้บังคับให้พนักงานสาวหยิบเงินสดให้ และขู่จะทำร้าย จนได้เงินสดไปอีกจำนวน 37,000 บาท แล้วหลบหนี้ไป ยังไม่ทราบเส้นทาง 

จากการสอบสวนพนักงานทั้ง 2 สาขา ทราบว่าผู้ก่อเหตุอายุประมาณ 20 -30 ปี พูดเสียงไม่ดัง และไม่ใช่สำเนียงคนในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ก่อเหตุมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของพนักงานเป็นอย่างดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังติดตามไล่ล่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในและนอกร้าน เพื่้อดูรูปพรรณคนร้าย ซึ่งพอได้เค้าคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามผู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่ คาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน