
11 พฤษภาคม 2566 เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท. สุทัศน์ สอนเหง้า สารวัตรสอบสวน สภ.หนองแค จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านหลังหนึ่งในต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองแค และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงพร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระบุรีไปยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียว พบรถเก๋งมาสด้า สีเทาดำ ทะเบียนหมวดจังหวัดอ่างทอง จอดอยู่ข้างบ้าน มียาบ้าจำนวน 3,000 เม็ด วางอยู่พื้นใต้เบาะคนขับ และมีดดาบวางอยู่ด้านหลังเบาะคนขับจำนวน 1 เล่ม
ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.คเณชา ธาราวาด อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดอ่างทอง เป็นภรรยาของ นายสมเดช สัทธศรี หรือ "เจ๋ง อุทัย"อายุ 39 ปี ผู้เสียชีวิต นายเอ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดสระบุรี จำนวนกว่า 10 นาย
พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นว่าได้ให้ นายเอ สายลับล่อซื้อยาบ้าจากนายสมเดช เจ้าของฉายา "เจ๋ง อุทัย" นำยาบ้าจำนวน 3,000 เม็ด ที่ตกบงซื้อขายในราคา 6,000 บาท มาส่งให้ที่บ้านหลังดังกล่าว
ขณะที่นายสมเดช ขับรถเก๋งมากับ น.ส.คเณชา เมื่อมาถึงที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี ที่ซุ่มอยู่ได้เข้าแสดงตัวจับกุมนายสมเดช แต่นายนายสมเดช ขัดขืน ได้พยายามเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแย่งปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ปืนเกิดลั่นใส่นายนายสมเดช
คมกระสุนขนาด 9 มม. ถูกเข้าที่ไหล่ขวาทะลุหน้าท้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยนำตัวนายสมเดช ส่งโรงพยาบาลหนองแคและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ริมฝีปาก เนื่องจากถูกนายสมเดช ชกต่อยช่วงชุลมุน
นายเอ (นามนสมมติ) อายุ40ปี สายล่อซื้อยาบ้าของตำรวจ กล่าวว่า ตนเองรู้จักผู้ตายขณะติดคุกในข้อหายาเสพติด ที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี เมื่อหลายปีก่อน โดยผู้ตายเป็นขาใหญ่ในเรือนจำมีหน้าที่รับจดหมายและส่งต่อให้กับผู้ต้องขัง จนเมื่อตนเองและผู้ตาย ออกจากเรือนจำ ในปี 2563 ได้ติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก
จากการก็มีการติดต่อกันมาเรื่อย ๆๆ โดยที่ผู้ตายเสนอว่ามียาบ้าจำหน่าย ตนเองหลังออกจากเรือนจำก็ไม่ได้ทำงาน แต่กลับตัวกลับใจเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเมื่อไม่นานก็มีการติดต่อการซื้อขายกัน โดยที่ผู้ตายยังวีดีโอคอลให้ดูว่ายังมียาบ้า ตนเองจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบทำการล่อซื้อ
กระทั่งเมื่อช่วง 22.00 น. ผู้ตายได้ขับรถเก่ง มากับภรรยา มาส่งยาบ้าที่นัดหมายไว้จำนวน 3 มัด โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแอบอยู่ใกล้กับที่รับยาบ้า เมื่อนายเจ๋งลงรถเก่งมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มอบตัว โดยที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนขู่ให้มอบตัว แต่นายเจ๋งไม่ยอมเข้าแย่งปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ
จากนั้นก็ต่อสู้กันมีเหตุการณ์ปืนลั่นใส่นายเจ๋งบริเวณไหล่ปลาร้าทะลุ ลิ้นปี่ อาการบาดเจ็บ โดยที่ภรรยาของผู้ตายยังนอนหลับอยู่ในรถโดยไม่รู้สึกตัว
"ตอนนั้นมันเร็วมาก จะห้ามให้มอบตัวก็ไม่ทัน เนื่องจากนายเจ๋งตัวใหญ่ แรงเยอะ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น"
ด้าน พลตำรวจตรีวิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ ผู้ตายนั้นมีพฤติกรรมการลักลอบขายเสพติดชนิดยาบ้า ดังนั้นจึงได้ทำการล่อซื้อ จำนวน 3 ถุง และนัดส่งมอบ ขณะที่ส่งมอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แสดงตัว มีการต่อสู้และแย่งอาวุธปืนกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วยจากการต่อสู้กัน ปืนเกิดลั่นใส่ตัวผู้ตาย
ดูจากวิถีกระสุนแล้วน่าจะเป็นการต่อสู้กันแล้วเกิดปืนลั่น เนื่องจากบาดแผลมีร่องอยกระสุนปืนจากบริเวณไหล่ซ้ายทะลุหน้าท้อง กระสุนฝังใน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับทางญาติคนตาย ร่วมทั้งอัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ ได้ทำการชันสูตรแล้วในเบื้องต้น
ในทางสืบสวน มีพยานในที่เกิดเหตุค่อนข้างชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งต้องแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้ตายด้วย ถ้าผู้ตายไม่ขัดขืนต่อสู้ก็ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
พลตำรวจตรีวิชิต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็แล้วแต่จะทำการสืบสวนและสวนให้ตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนประวัติภรรยาผู้ตายนั้น เคยติดคุกในข้อหาค้ายาเสพติดมา 2 - 3 รอบ ล่าสุดถูกจำคุกจำนวน 9 ปี ที่เรือนจำสระบุรี พึ่งพ้นโทษออกมา ส่วนนายเจ๋ง ผู้ตายเคยก่อเหตุชิง -ลักทรัพย์ และมีประวัติยาเสพติดอีกด้วย แล้วพ้นโทษมาไม่นาน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาน.ส.คเณชา ภรรยาผู้ตาย ร่วมกันมีและจำหน่ายยาเสพติด