
4 พฤษภาคม 2566 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน สอบปากคำ 2 ผู้ต้องหา หลังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความว่า ถูกกลุ่มผู้ต้องหาใช้บัตรประชาชนปลอม ร่วมกับพวกรวม 5 คน หลอกเช่ารถยนต์ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 8XXX จังหวัดน่าน อ้างว่าจะใช้ขับท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดน่าน 5 วัน โดยโอนเงินมัดจำมาให้ผู้เสียหายเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 จำนวน 8,500 บาท
จากนั้นผู้เสียหายได้นำรถไปให้เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองน่าน โดยผู้ต้องหาได้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ที่ใช้ชื่อว่า นางสาว นัสรินฎาร์ อายเดร์ หมายเลขประจำตัว 1 XXXX 01034XX 5 ที่อยู่ตามบัตรอยู่ใน แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบพบว่า เป็นบัตรประจำตัวประชาชนและใบขับขี่ปลอม เลขบัตรประจำตัวไม่มีอยู่ในสารระบบ
จากการตรวจสอบจากชื่อนามสกุล พบว่า เป็นชื่อนามสกุลจริง แต่ใบหน้าตามบัตรและที่อยู่ไม่ตรง พบว่าเป็นบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในภาคใต้ ไม่ใช่บุคคลตามบัตรปลอมดังกล่าว คาดว่าถูกใช้ชื่อและนามสกุลเพื่อปลอมบัตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองน่านจึงเปลี่ยนวิธีการสืบสวนหาข่าว เป็นการติดตามหาการเดินทางมายังพื้นที่จังหวัดน่าน พบว่าผู้ต้องหาเดินทางมาเช็กอินที่โรงแรมโดยใช้บัตรปลอม โดยนั่งรถแท็กซี่มา จึงติดตามจากกล้องวงจรปิดจนพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวรับผู้ต้องหามาจากบริเวณศาลาริมทางด้านหน้าสนามบินน่าน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องหาอำพรางตัวใส่วิคผม ใส่แว่นดำ ใส่แมสตลอดเวลา และมีการสวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้นให้ดูตัวโต โดยมีรถเก๋งขับรถมาส่ง จนทราบหมายเลขทะเบียน จึงทำการตรวจสอบพบว่าเป็นรถเช่าที่ถูกเช่ามาจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
จากการตรวจสอบพบว่า นายพงษกร ประนอกดง ผู้ต้องหารายที่ 2 ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้เช่ารถเก๋งคันที่ขับมาส่งผู้ต้องหา
จากการสืบทราบพบว่า นายพงษกร มีแฟนสาว ชื่อ นางสาวตวงพร เตจ๊ะแยง อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาเดียวกับนายพงษกร จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบัตรประจำตัวปลอมที่นำมาเช่ารถในพื้นที่จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติศาลจังหวัดน่านเพื่อออกหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ออกติดตามจับกุมแต่ไม่พบตัว จึงสืบทราบว่า นายพงษกร ประดงนอก และนางสาวตวงพร เตจ๊ะแยง ได้อาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ในตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จึงนำกำลังเข้าไปติดตามจับกุมจนสามารถจับกุมตัวได้
ต่อมาได้แจ้งข้อหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่และศาลจังหวัดน่าน ในข้อหาดังนี้
โดยทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุ และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่ทางเจ้าหน้าที่มั่นใจเพราะมีพยานหลังฐานเพียงพอ จากการตรวจสอบพบว่า นางสาวตวงพร มีหมายจับอีก 2 หมายของศาลจังหวัดเชียงใหม่ในข้อหาเดียวกัน
ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ทำการถอดเครื่อง GPS ที่ติดรถในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดแพร่ แล้วขับมุ่งหน้าไปอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และลักลอบส่งรถคันดังกล่าวไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านทันที
เบื้องต้นพบรถยนต์ที่กลุ่มดังกล่าวก่อเหตุไปแล้วที่มีหลักฐานแน่ชัดจำนวน 10 คัน คาดว่าน่าจะมีเพิ่มอีกจำนวนหลายคันอยู่ในระหว่างขยายผล
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงพ่อแม่พี่น้อง ที่ถูกแก๊งนี้ดำเนินการใช้เอกสารปลอมมาเช่ารถ แล้วรถหายไป ให้ติดต่อมายังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดน่าน หรือแจ้งความในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าว ต่อไป