ครูสอนขับรถ งัดบ้านอดีตผู้การ 7 ย่ามใจกลับมาก่อเหตุซ้ำ เจอรวบคาตู้เสื้อผ้า
ตำรวจ สน.ดอนเมือง รวบครูสอนขับรถ ย่องขึ้นบ้านอดีตผู้การ 7 ขโมยพระเครื่องไปขาย ย่ามใจกลับมาก่อเหตุครั้งที่ 3 จังหวะเดียวกับ ตร. มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พยายามซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้า แต่หนีไม่รอด
29 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุมสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.ชรินทร์ อินทนาชัย สวป.สน.ดอนเมือง นำกำลังฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง เข้าปิดล้อมจับกุมคนร้ายก่อเหตุเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์และซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยสรณคมน์ 3 แยก 6 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพ
ใช้เวลาปิดล้อมประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจับกุมตัวก่อนเข้าจับกุมตัวนายชิติพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ได้พร้อมของกลาง รถจักรยาน ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน-ดำ ปั่นรัชกาล ร.9 จำนวน 1 องค์ พระเครื่อง 63 องค์ ก่อนจะพาเข้าค้นภายในห้องพักในชุมชน กสบ. พบพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่ง รูปปั้นตุ๊กตาจีน 1 องค์ และ พระแก้วมรกต 1 องค์ ก่อนคุมตัวที่ สน.ดอนเมือง
การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (29 เมษายน) มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากตนออกไปทำธุระข้างนอก เมื่อกลับมาพบว่าพระพุทธรูป และพระเครื่อง ที่เก็บรักษาไว้ บริเวณหิ้งพระชั้น 2 ของบ้านได้หายไป โดยพบพิรุธหน้าต่างบ้านถูกเปิดออกจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว และทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวานนี้ (28 เมษายน) เวลาประมาณบ่ายโมง ได้มีชายขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ มาจอดอยู่บริเวณโรงแรมฯ ใกล้กับบ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ออกทางประตูหนีไฟด้านหลัง เพื่อปีนข้ามไปบ้านที่เกิดเหตุ และลักเอาพระพุทธรูปและพระเครื่องยัดถุงกระสอบ ก่อนหลบหนีไป
ขณะตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน พบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายมาจอดที่หน้าโรงแรม จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะอยู่ภายในบ้าน จึงประสานกำลังเข้าปิดล้อม และตรวจค้นภายในบ้านทุกซอกทุกมุมจน พบตัวคนร้ายหลบซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบริเวณชั้นสองของบ้านที่เกิดเหตุ
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองมีอาชีพเป็นครูสอนขับรถ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถผ่านบ้านหลังดังกล่าว เมื่อมองไปที่ชั้น 2 เห็นว่าไม่ปิดหน้าต่างชั้น 2 ประกอบกับลักษณะบ้านคล้ายจะไม่มีคนอยู่ จึงแอบปีนเข้ามาบริเวณด้านหลังโรงแรมด้านหลังบ้าน เมื่อหลายเดือนก่อนได้เข้าไปลักเอาพระมา 3 องค์ และได้ขายให้กับเพื่อนในราคา 3,000 บาท
กระทั่งเมื่อวานนี้ ได้เข้ามาก่อเหตุลักเอาเครื่องออกมาจำนวนหนึ่งโถ จากนั้นได้นำไปซ่อนไว้ข้างแท็งก์น้ำโรงแรม ตั้งใจว่าวันนี้จะมาเอาไปขาย เมื่อมาถึงบ้านกลับเปลี่ยนใจเข้าไปลักรูปหล่อรัชกาลที่ 9 ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านเป็นจำนวนมาก จึงไม่กล้าออกมา และแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้ามาจับกุม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ พล.ต.ต.วิบูลย์ศักดิ์ สิทธิเดชะ อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้ว และเสียชีวิตลงเมื่อปี 2558