ร้องกองปราบฯ มิจฉาชีพใช้เพจเฟซบุ๊ก หลอกขายจักรยานยนต์มือสอง

28 เมษายน 2566 เรื่องหลอกขายจักรยานยนต์มือสอง ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.นายดีเลิศ อ้อวิจิตร ทนายความ พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย จากการถูกหลอกให้โอนเงิน หลังติดต่อซื้อรถจักยานยนต์มือสอง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ที่อ้างว่ารถจักรยานยนต์ที่นำมาขาย เป็นรถหลุดจำนำ ซึ่งพบว่ามีเปิดขายรถจำนวนมากหลายเพจ คาดว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ 

เพจดังกล่าวมีการโพสต์ภาพรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ขายในราคาตั้งแต่  13,000 - 31,500 บาท พร้อมเล่มเขียว เอกสารชุดโอนครบ ภาษีปี 66 มีบริการส่งทั่วไทย  แต่หลังผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร ของเพจดังกล่าวกลับไม่ส่งสินค้ารถจักรยานยนต์ตามที่ตกลงซื้อขายกัน ซ้ำยังบล็อกเฟซบุ๊กผู้ซื้อด้วย ไม่ได้รถ และเงินโอนไปก็ติดต่อขอคืนไม่ได้

วิธีการคนร้ายจะโพสต์รถจักรยานยนต์ในราคาที่ถูกต่ำกว่าท้องตลาด เมื่อมีผู้สนใจติดต่อก็จะเรียกเงินมัดจำ 1-2 พันบาท หลังจากนั้นก็จะเรียกค่าภาษี ค่าโอน  ค่าประกันขนส่ง ตลอดจนอ้างรถถูกด่านตรวจต้องจ่ายอีก ครั้งละ 1-2 พันบาท แจ้งว่า เดี๋ยวรถมาส่งแล้วจะคืนให้ทั้งหมด คนที่จ่ายแล้วอยากได้รถจักรยานยนต์ก็จะจ่ายเพิ่มเรื่อยๆ สุดท้ายรถก็ไม่มาส่ง ขาดการติดต่อปิดเพจไปเปิดใหม่

ทนายดีเลิศ เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายทั่วประเทศ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่ตน ขอให้ช่วยติดตามคดี และเตือนภัยมิจฉาชีพเหล่านี้ด้วยเนื่องจากคดีแต่ละพื้นที่ที่แจ้งความไว้ไม่มีความคืบหน้า เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายจากทั่วประเทศ จำนวนมากติดต่อมาเรื่อยๆ คาดว่ามูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท 

น้องใบเตย (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พนักงานฝ่ายบุคคล บริษัทเอกชน หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนมีความประสงค์จะซื้อรถ จยย.มาไว้ใช้งานที่บ้าน เข้าไปค้นหาเฟซบุ๊กมีชื่อเพจ "MM รถหลุดจำนำ" โพสต์มอเตอร์ไซด์มือสองหลุดจำนำจากบ่อน ราคา 1.6 หมื่นบาท จากราคาจริงมือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นบาท ก่อนติดต่อสอบถามพูดคุยด้วย

“เขาบอกมีเล่นเขียว พร้อมโอน ครบทุกอย่าง รับรองเอามาใช้แล้วไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แถมเอาบัตรประชาชนส่งมายืนยันให้ดูด้วย เราก็ลองเอาบัญชีธนาคาร ชื่อคนขาย ไปค้นดูทั้งหมดไม่พบว่าติดแบล็คลิสต์คนโกงแต่อย่างใด ”

ช่วงต้นเดือนเมษายน ตัดสินใจซื้อเขาเรียกเงินโอนค่ามัดจำ 3 พันบาท ที่เหลือรอส่งของแล้วค่อยจ่าย แต่ก็เรียกค่าโอนกรรมสิทธิ์อีก 5.5 พันบาท จากนั้นเรียกค่าทำเอกสารใหมาอีก 6.9 พันบาท บอกว่าต้องการยืมให้บัญชีเดินหลังจากนั้นจะคืนกลับมาให้ใน 10 นาที แต่สุดท้ายก็ไม่คืนจึงเชื่อวานถูกหลอกก่อนจะไปแจ้งความและขอความช่วยเหลือจากทนาย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองปราบปราบตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก หลายท้องที่ มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก โดยทั้งหมดแจ้งความ thaipoliceonline.com และได้ไปพบพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุแล้ว จึงแนะนำผู้เสียหาย หากประสงค์จะให้กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดหลอกลวงประชาชนต้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติสั่งการมาเพื่อดำเนินการต่อไป