svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"เต้ มงคลกิตติ์"รับทราบข้อหา โทรขู่"ทนายเดชา"อาจถูกกระทืบ หากยุ่งคดีแตงโม

19 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เต้ มงคลกิตติ์" รับทราบข้อหากับตำรวจสอบสวนกลสง กรณีโทรขู่ "ทนายเดชา" ปมอาจส่งคนไปกระทืบ หากไม่เลิกยุ่งคดีการเสียชีวิตของ"แตงโม นิดา"

19 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. "เต้ มงคลกิตติ์" นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ-หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กรณี โทรศัพท์ข่มขู่  นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา

ก่อนหน้านี้ "เต้ มงคลกิตติ์" ระบุทางโทรศัพท์ว่า จะทำร้ายร่างกายโดยการจะส่งคนไปกระทืบ หากไม่เลิกยุ่งกับคดีการเสียชีวิต ของดาราสาว น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม นิดา" ในช่วงที่เป็นผู้รับผิดชอบในการต่อสู้คดี เพื่อให้แตงโมได้รับความยุติธรรมเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 

หลังเกิดเหตุ นายเดชา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ ตามความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด 

ทั้งนี้ มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"เต้ มงคลกิตติ์"รับทราบข้อหา โทรขู่"ทนายเดชา"อาจถูกกระทืบ หากยุ่งคดีแตงโม

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายเดชา ได้มาวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นในคดีของแตงโม จนส่งผลให้ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโมเกิดความกลัวและเป็นกังวล ซึ่งส่งผลต่อการทำคดีที่ตนเองเป็นผู้ดูแลอยู่ จึงให้ทนายความไปร้องเรียนมรรยาททนายความที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเดชา ซึ่งต่อมาตนเองได้โทรศัพท์ไปหานายเดชา แต่ไม่ได้รับสาย 

ในเวลาต่อมานายเดชา ในโทรศัพท์กลับมาหาตนเอง จึงตักเตือนไปว่าอย่าให้ความเห็นทางกฎหมายในคดีนี้อีก พร้อมกับพูดว่า “ถ้าเป็นคนอื่น หรือเป็นสมัยก่อน ตนเองส่งคนไปกระทืบแล้ว” โดยไม่ทราบว่านายเดชา ได้บันทึกเสียงไว้ แล้วนำมาเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตนเองในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ยังไปร้องเรียนตนเองที่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรได้ยุติไปแล้วเนื่องจากตนเองได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ไปแล้ว
ทนายเดชา

กรณีนี้จึงเหลือข้อพิพาทอยู่ 2 ส่วน คือ เรื่องที่ ป.ป.ช. ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่น่าจะเข้าข่าย เนื่องจาก ป.ป.ช. จะรับเฉพาะในส่วนที่เป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่น่าจะใช่อำนาจในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ส่วนในคดีอาญาที่มีการแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน

“วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ซึ่งตนเองก็ให้การปฏิเสธกับข้อกล่าวหาของนายเดชา มั่นใจว่าไม่น่าจะเข้าข่ายความผิด ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ”

ทั้งนี้ น่าจะเข้าข่าย ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตนเองและทีมกฎหมายก็พร้อมสู้คดี

นอกจากนี้ตนเองก็ได้ ดำเนินคดีกับนายเดชา ด้วยเช่นกัน ในข้อหาหมิ่นประมาทหลายกรรมหลายวาระ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งหากนายเดชา มาขอโทษก็พร้อมที่จะถอนคดี แต่ถ้าไม่ขอโทษก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถึงที่สุด
"เต้ มงคลกิตติ์"รับทราบข้อหา โทรขู่"ทนายเดชา"อาจถูกกระทืบ หากยุ่งคดีแตงโม

logoline