ภายหลังตำรวจจับกุม น.ส.นวพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และใช้เอกสารเท็จในการทำบัตรชมพูให้กับบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างอุ้มบุญของคนจีน รวมทั้งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทั้งในจีน ไทย และกัมพูชา เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
13 เมษายน 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผล โดยตำรวจสืบสวน บก.น.6 สน.บางรัก และ สน.ยานนาวา สนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจค้น 4 จุดที่เกี่ยวข้อง จุดแรกเป็นบ้านพักของ น.ส.นวพร ในซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ จุดที่ 2 เป็นที่ตั้งบริษัท และ สมาคม ในซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่ง น.ส.นวพรใช้ในการแอบอ้างกับคนจีนเพื่อหลอกลวงสร้างความน่าเชื่อถือ
จุดที่ 3 เป็นที่ตั้งอีกบริษัท ในซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับรองว่า ผู้เสียหายคดี สภ.หนองปรือเป็นพนักงาน และจุดสุดท้าย สมาคม ในซอยเย็นจิตร 12 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งสืบทราบว่า น.ส.นวพรได้ให้คนนำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนในที่ดังกล่าว
ผลการตรวจค้นพบว่า มีการทำลายเอกสารสำคัญหลายอย่าง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงของ สน.ประเวศ รวมทั้ง เอกสารที่แสดงถึงความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการเข้าค้นทั้ง 4 จุดในวันนี้ เป็นการขยายผล เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับ น.ส.นวพร เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสวมบัตรชมพู และการอุ้มบุญ ซึ่งจากนี้จะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งกรณีการอำนวยความสะดวกในเรื่องการทำบัตรชมพู และการรับจ้างอุ้มบุญให้กับคนจีน
นอกจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับมหาดไทย เพื่อวางแนวการแก้ไข ช่องโหว่ที่อาจส่งผลให้กลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ สามารถดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดของกลุ่มทุนจีนสีเทาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต