"บิ๊กต่อ" สั่งบุกค้น 2 เป้าหมาย จับแก๊งรับจำนำรถ กลาง จ.เชียงใหม่

7 มีนาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) สั่งการให้ ศปจร.ตร.ชุดปฏิบัติการที่ 1 โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. นำกำลังจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากทราบว่านายนิคม (สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์ลักลอบซื้อขายรถจำนำ รับจำนำรถผิดกฎหมาย ตลอดจนซื้อขายรถและอะไหล่ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางเป็นเอกสารราชการที่ถูกปลอมแปลง และยาบ้าจำนวนหนึ่ง 

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ดำเนินการต่อไป

จากการสืบสวนขยายผลพบข้อมูลอีกว่ามีนางสาวบัวเลียว (สงวนนามสกุล) หรือเจ๊หล้า กับนายชาติชาย (สงวนนามสกุล) ได้ร่วมกระทำความผิด ในคดีร่วมกันปลอมเอกสารราชการ ก่อนนำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 แห่ง ใน อ.แม่ริม และ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจค้นปรากฏว่าเป้าหมายที่หนึ่งเป็นบ้านไม่ทราบเลขที่ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พบนายชาติชาย แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน พบของกลาง อาวุธปืนมีทะเบียน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนในซองจำนวน 10 นัด 

โดยจะได้ตรวจสอบที่มาและความถูกต้องของอาวุธปืนจำนวนดังกล่าวต่อไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม 

ส่วนเป้าหมายที่ 2 ที่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยมีนางบัวเลียวหรือเจ๊หล้า แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านพบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 6 คัน ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีขาว จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีขาว จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน, รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนทอง จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 3 คัน 

ซึ่งทั้งหมดนางบัวเลียว รับว่าได้รับจำนำ เพื่อประกันเงินกู้ในราคาต่างๆ กัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า การรับจำนำทะเบียนรถดังกล่าวเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 โดยการรับจำนำทรัพย์สินซึ่งถือว่าเป็นการกระทำด้วยประการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน และการกระทำดังว่านี้อาจเข้าข่ายรับของโจรได้ หากพบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการลักทรัพย์หรือการกระทำโดยมิชอบอื่นๆ จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดดังกล่าว