เด้งแล้ว ผู้กำกับบ่อวิน เอี่ยวเว็บพนัน Saipay 69-ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ

24 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้ากรณี ตำรวจ PCT จับกุมเว็บพนัน Saipay69 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและทำการสอบปากคำ และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นายตำรวจระดับ ผู้กำกับการ อักษรย่อ “พ” หลังได้นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา และพบว่า มีนายตำรวจคนดังกล่าวเป็นนายทุน และดูแลเว็บพนันออนไลน์ Saipay69 มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ตร.PCT แจ้งดำเนินคดี "ผกก. พ.” เชื่อไม่หลบหนีคดี
• เตรียมส่งหลักฐานเอาผิด “ผกก.พ.” ประสานพื้นที่ภาค 2 เอาผิดทางวินัย
• เตรียมออกหมายจับข้าราชการระดับสูง พัวพันเว็บพนัน เงินหมุนเวียน 50 ล้าน 

ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มี หนังสือคำสั่งที่ 63/2566ลงวันที่ 24 ก.พ.66 ให้ พ.ต.อ.พันดาว ดำขำ ผกก.สภ.บ่อวิน ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.ชลบุรี โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม จากกรณีปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ กรณี เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ความว่า 


จ่อออกหมายจับ "พ.ต.อ." พบเบาะแสเป็นนายทุนเปิด "เว็บพนันออนไลน์" โดย ศปอส.ตร. นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักในกรุงเทพมหานคร และ จังหวัดนนทบุรี เป็นการตรวจค้นกลุ่มของการตลาดพนันออนไลน์ชื่อ "saipay69" พบผู้ต้องหารวม 6คน ตรวจยึดของกลาง รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท พบมีผู้เล่นการพนันออนไลน์ผ่านเว็บไชต์ดังกล่าวกว่า 16,000 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท 

และพบหลักฐานการซัดทอดจากผู้ต้องหาว่า มีข้าราชการตำรวจเป็นนายทุนเบื้องหลัง ตำแหน่ง ผกก.ของ สภ.แห่งหนึ่งในพื้นที่ ภ.2 โดยพบหลักฐานเป็นบัญชี ที่เปิดรับเงินเข้าบัญชีของตนเอง แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ นายพันดาว หรือ พ.ต.อ.พันดาว ดำขำ 

ในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันฟอกเงิน" จนกว่าคดีจะถึงที่สุด กรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่า พ.ต.อ.พันดาว กระทำความผิดทางวินัย


 

ขณะเดียวกันได้มีคำสั่ง ภ.จว.ชลบุรี ที่ 64/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ. ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นประธานกรรมการ โดยมีกรรมการและเลขานุการรวม 7 นาย

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฏ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัย

ในเรื่องอื่นนอกจากที่ ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่ การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้น มีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกระทำในเรื่องที่สืบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว