วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกอบรมครูฝึก (ครู ก.) สำหรับการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม สืบสวน และ จราจร ในสถานีตำรวจ” ที่สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกอบรมยุทธวิธีตำรวจกลาง อ.หนองสาหร่าย จ.นครราชสีมา
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะ ศักยภาพ ตลอดจนการได้รับการฝึกทบทวนการใช้อาวุธปืนประจำกายของตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ สายงานป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีภารกิจหน้าที่ที่จะต้องเข้าระงับยับยั้งเหตุซึ่งหน้าต่างๆ รวมถึงการปราบปราม และสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ดังนั้น เพื่อให้ตำรวจเกิดความชำนาญในการใช้อาวุธปืนประจำกายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน รวมถึงเกิดความปลอดภัยต่อตัวตำรวจเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น
โครงการฯ จะมีการฝึกอบรมครูฝึกทั้งหมด 3 ระยะ เรียกว่า ครู ก. , ครู ข. และ ครู ค.
โดยครู ก คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบัญชาการ ประกอบด้วย บช.น. และ ภ.1-9 หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 300 นาย
ครู ข คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบังคับการ และ ตำรวจภูธรจังหวัด ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 2,550 นาย
ครู ค คัดเลือกจากสถานีตำรวจทั่วประเทศ 1,484 สถานีๆ ละ 2 นาย รวมจำนวน 2,968 นาย
การฝึกอบรมในครั้งนี้ มีระยะเวลา 3 วัน จะเป็นการฝึกให้กับ ครู ก. ก่อน จากนั้น ครู ก. จะนำความรู้และทักษะไปขยายผลถ่ายทอดให้กับ ครู ข. และ ครู ค. ตามลำดับ ทั้งนี้หลังจากอบรมครูฝึกทั้ง 3 ระยะเสร็จสิ้น และนำไปฝึกอบรมให้กับตำรวจในสถานีตำรวจแล้ว จะเริ่มทำการฝึกทักษะการยิงปืนให้กับตำรวจทั่วประเทศได้พร้อมกัน ในช่วงเดือน พฤษภาคม ที่จะถึงนี้
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. เล็งเห็นว่า โรงพักเป็นหัวใจหลักของการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน จึงต้องสร้างทักษะและความชำนาญให้กับตำรวจที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนเป็นลำดับแรก โดยโครงการนี้ตำรวจในสายงานป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจร ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ กว่า 110,000 นาย จะได้รับการฝึกฝนทักษะและความชำนาญในการใช้อาวุธปืน รวมไปถึงการยิงปืนในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในการปฏิบัติงานจริงรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การนั่งยิง นอนยิง การยิงหลังที่กำบัง หรือการยิงขณะเคลื่อนที่ ซึ่งการฝึกยิงในลักษณะดังกล่าว จำเป็นที่ตำรวจจะต้องได้รับการฝึกฝนก่อนเข้ารับการยิงจริง จึงจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“ขอให้พี่น้องตำรวจ ตั้งใจฝึกฝนและเก็บเกี่ยวความรู้ จากครูฝึกที่มีความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ ที่จะนำเอาความรู้และประสบการณ์ในการยิงปืนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงที่เสี่ยงอันตราย มาถ่ายทอดให้กับทุกคน ซึ่งรับรองได้ว่าความรู้นี้ ไม่สามารถไปหาได้จากที่ไหนอีก" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวกับผู้เข้าร่วมการฝึก
สำหรับตำรวจในสถานีตำรวจทั่วประเทศ สามารถเข้ารับชมคลิปสาธิตการฝึก และเริ่ม Dry Fire ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านทางแอปพลิเคชั่น แทนใจ ฝึกมากโอกาสตายน้อย ฝึกน้อยโอกาสตายมาก ไม่ฝึกเลยสมควรตาย!” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย