svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบช.ก. พร้อมเปิดรับข้อมูล “สารวัตรซัว” ไม่หวั่นคอนเน็กชั่นบิ๊กตร.

13 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผบช.ก. แจงหลังประชุมแบ่งงานตรวจสอบ “สารวัตรซัว” ปมพัวพันพนันออนไลน์หรือไม่ ชี้ทุกรูปแบบอาชญากรรมทิ้งร่องรอยให้ติดตาม หากกระทำผิดจริง เชื่อ จนท.สามารถแกะรอยตรวจสอบได้ ยัน ยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง พร้อมเปิดรับข้อมูลทุกฝ่าย

13 กุมภาพันธ์ 2566 ภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เรียกประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อมูล “สารวัตรซัว” อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่ถูกระบุมีความเชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนัน “มาเก๊า 888” เพื่อมอบหมายงาน แบ่งประเด็นในสืบสวนสอบสวน เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ผบช.ก. พร้อมเปิดรับข้อมูล “สารวัตรซัว” ไม่หวั่นคอนเน็กชั่นบิ๊กตร.

ล่าสุด วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยหลังใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า การประชุมในวันนี้ ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน อาทิ บก.ป. บก.ปอศ. บก.ปอท. ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลักๆ จะเน้นไปที่การตรวจสอบให้แน่ชัดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบทรัพย์สิน การตรวจสอบบริษัท และ บุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีการแบ่งหน้าที่การดำเนินการไปบ้างแล้ว

เมื่อถามว่า ตัวผู้ถูกกล่าวหามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ อาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือ ทำลายหลักฐานต่างๆ จนยากต่อการตรวจสอบ จะมีผลต่อการดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ก็มีเป็นกังวลบ้าง เพราะเรื่องเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง จึงเป็นโอกาสที่ที่ทำให้เกิดการขยับโยกย้ายทรัพย์สิน และเส้นเงิน แต่เชื่อว่าอาชญากรรมไม่ว่าจะรูปแบบใดย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้เสมอ หากกระทำผิดจริง เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยตรวจสอบได้อย่างแน่นอน 

ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆ ขอเวลาสักระยะหนึ่ง เมื่อพยานหลักฐานมีมากพอ ก็จะตั้งเป็นคดีและเชื่อว่าจะสามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน 

ผบช.ก. พร้อมเปิดรับข้อมูล “สารวัตรซัว” ไม่หวั่นคอนเน็กชั่นบิ๊กตร.

ส่วนกรณีผู้ถูกกล่าวหา มีเพื่อนร่วมรุ่นลูกอดีต ผบ.ตร. แลมีความสัมพันธ์กับนายพล จ. นั้น จะมีผลต่อการดำเนินงานหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า เราดำเนินการตามข้อเท็จจริง จะเป็นลูกใคร หลานใคร ไม่ใช่ประเด็นหรือสาระ ยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง 

ส่วนเรื่องบทลงโทษทางวินัย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของต้นสังกัด ทางเราดำเนินการเฉพาะในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งหากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ทางเราจะรายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกขั้นตอนอยู่แล้ว

"คณะทำงานฯ ยินดีเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือใครก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นประโยชน์ และจะนำไปตรวจสอบต่อ ส่วนที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูลมาจำนวนมาก และเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่จะนำไปดำเนินการตรวจสอบ หากปรากฎเป็นข้อเท็จจริงที่ผิดกฎหมาย ก็จะใช้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนการจะเรียกนายชูวิทย์มาให้ปากคำหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต" พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว

logoline