19 ธันวาคม 2566 น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ “เม พรีมายา” เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, เพื่อมอบตัวตามหมายจับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น.ส.พิชญ์นรี กล่าวว่า ตนเองเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี เป็นคนทำงานและพัฒนาตัวเองในเส้นทางนี้ โดยยอมรับว่าแม้ว่า จะมีข้อผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง ตนก็พร้อมแก้ไข และทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์ความจริง บางอย่างคนทำงานอย่างตัวเอง อาจจะผิดข้อตกลงหรือกฎกติกาบ้าง ก็ไม่รู้จริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครในการทำงานทุกๆ วันนี้
ส่วนประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น น.ส.พิชญ์นรี บอกว่า ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ทุกอย่างได้ให้การกับทางตำรวจแล้ว โดยธุรกิจของตัวเองไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง
ขณะที่ “นิ่ม” เครือข่ายรายใหญ่และคนสำคัญทางภาคใต้มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องหรือไม่ ยืนยันว่า ทุกอย่างมีมูลความจริง
เมื่อถามถึงประเด็นผลกำไรที่ยื่นต่อพาณิชย์พบว่า ไม่สอดคล้องกับที่โฆษณาสื่อโซเชียล และเงินลงทุนเป็นเงินผิดกฎหมายหรือไม่นั้น น.ส.พิชญ์นรี ยืนยัน ไม่จริง เพราะตนเองทำงานอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้รู้รายละเอียดทุกอย่าง และจุดเล็กๆ น้อยๆ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ ที่ผ่านมา ชีวิตตัวเองสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมและคนรอบข้างตลอด
ตำรวจไซเบอร์ เผย ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับกุมได้ 4 คน เร่งติดตามที่เหลือ
ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโนบาย ให้ดำเนินการตรวจสอบเพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินความเป็นจริง จนได้ไปพบว่า “พรีมายา” เข้าข่ายกรณีดังกล่าว จึงได้ตรวจสอบและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
และต่อมาพบว่า ญาติของ น.ส.พิชญ์นรี เจ้าของแบรนด์ และหนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายจับ กำลังจะออกนอกประเทศ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. สกัดจับ และทางตำรวจไซเบอร์ จึงต้องปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน แม้จะยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ แต่ก็เป็นการปฏิบัติการก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า พฤติการณ์เป็นการโพสต์เชิญชวนลงทุนจำนวนเงิน 6,000บาท และจะได้กำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับกุมได้ 4 คนแล้ว
ส่วนที่เหลือจะเร่งจับกุมได้ครบภายในสัปดาห์นี้ โดยหนึ่งในนี้มีหน้าม้าที่เป็นต้นโพสต์ เชิญชวนมาลงทุนจนทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง ซึ่งตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และบัญชีธนาคารมาตรวจสอบ ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินจริงหรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา
แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหา นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงหรือไม่ ขณะที่แฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจสอบเพจชักชวนลงทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน
ทั้งนี้ ผบช.สอท. ยืนยันว่า ที่มีการแชร์เรื่องจะมอบรางวัลนำจับ 5 แสนบาทให้ผู้แจ้งเบาะแสจับ “เม พรีมายา” ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีการตั้งรางวัลนำจับดังกล่าว แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเฟคนิวส์
ชมคลิป