รวมดรามา คุณแม่ "แตงโม นิดา" 10 เดือนที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง

คดีของ “แตงโม นิดา” พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเหตุให้เสียชีวิต ในคืนวันที่ 24 ก.พ. เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา สังคมยังคงตั้งคำถาม และค้นหาความจริงเบื้องลึกของเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเป็นอุบัติเหตุ ความประมาท หรือจงใจ  แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นหน้าที่ของตำรวจและผลที่สรุปออกมาทำเอาผู้ติดตามมาตลอดผิดหวังเล็กๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องของกระบวนทางกฎหมาย

แต่จากคืนวันที่ 24 ก.พ.-22 ธ.ค.65 คดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ประหนึ่งเป็นคดีของทุกคนที่รักแตงโม แต่เป็นได้แค่มุงดูเท่านั้น จึงฝากความหวังไว้กับ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ “แตงโม นิดา” ที่มีสิทธิ์ในทางคดี ดังนั้นทุกความเคลื่อนไหวและทุกถ้อยคำ จึงเป็นที่จดจ้องของคนที่รักแตงโม เป็นอย่างยิ่ง และเรื่องราวดรามาก็เกิดกับ แม่ของแตงโม หลายเรื่องราว นับตั้งแต่เกิดเหตุเศร้า

กราบเท้าขอขมา

1 มี.ค. นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เข้ากราบเท้าขอขมา แม่ของ “แตงโม นิดา” ที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยมี กระติก หรือน.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท หรือ โรเบิร์ต ร่วมด้วย หลังจากคุณแม่ได้สอบถามกระติกด้วยตนเอง จนเกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย หลังจากนั้น แม่ของแตงโม ได้กล่าวว่า

“ตนรับการขอโทษจากปอและโรเบิร์ต แต่ยังไม่ขอให้อภัยกระติก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด และพิสูจน์ได้ว่ากระติกไม่ได้ทำผิด”

จากการให้อภัยดังกล่าว ทำเอาสังคมระอุ เพราะเรื่องเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันและกำลังอยู่ในอารมณ์ตึงเครียด เพราะกระแสในขณะนั้นมองว่าไม่น่าใช่อุบัติเหตุ

เงิน 30 ล้าน กลายเป็น #มีคุณแม่เมื่อพร้อม

ต่อจากนั้น 4 มี.ค.ได้ไปออกรายการดังช่อง 3 และช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงการเรียกร้องค่าเสียหาย ว่า

“ปอเป็นผู้ชายที่สุภาพที่สุด เขามีความสม่ำเสมอโทรหาแม่ร้องไห้ทุกวัน แล้วแม่ก็ได้เงินปลงศพจากปอเป็นค่าเยียวยา เขาให้แม่ไปคำนวณมา สมมติน้องโม เล่นละครเรื่องละ 8 แสนถึง 1 ล้านบาท ถ้าแตงโมมีชีวิตอีก 30 ปี ก็ประมาณ 30 ล้าน ถ้าน้องโมอยู่มีรายได้มากกว่านี้อยู่แล้ว”

หลังจากประโยคทองดังกล่าว หลุดออกมาจากปากของ ภนิดา แม่ของแตงโม ก็เกิดปฏิกิริยาร้อนแรงในโลกออนไลน์ทันที ทั้งกลุ่มเพื่อน คนในวงการบันเทิง ชาวเน็ต รวมถึงคนที่ติดตามข่าวมาตลอด ไม่พอใจกับท่าทีและคำพูดของแม่แตงโม จนทำให้แฮชแท็ก #มีแม่เมื่อพร้อม ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากกว่า 2 ล้านโพสต์ แม้แต่ “ต่อย ดายศ” ลูกชายและพี่ชายแตงโม ยังโพสต์ภาพอีโมจิหัวใจสลาย และระบุว่า ผิดหวัง

รวมไปถึงประโยคทองในวันเดียวกัน “ให้อภัยปอ-เบิร์ต 100 เปอร์เซ็นต์”

"เท" ทนายต่อเนื่อง

การใช้ทนายหรือที่ปรึกษากฎหมาย เป็นอีกประเด็น ที่แม่แตงโม ใช้อย่างสิ้นเปลืองภายในระยะเวลา 10 เดือน เริ่มจาก

ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่เข้ามาดูคดีตั้งแต่แรกในวันเป็นคดี แต่ใน วันที่ 18 มี.ค. ทนายกฤษณะ ได้เดินทางมาพบ ทนายเดชา พร้อมแถลงข่าวเปิดใจทั้งน้ำตาต่อสื่อครั้งแรก หลังถูกปลดจากการทำ "คดีแตงโม" ว่า

“ตนขอน้อมรับการตัดสินใจของคุณแม่ ส่วนตัวยินดีที่จะให้ ทนายเดชา เข้ามาสานงานต่อ เพราะท่านมีวิชาชีพที่ดีกว่าตน โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่คุณแม่น้องแตงโมต้องการเปลี่ยนทนายมาจากเป็นความผิดพลาดส่วนตัว เพราะตนไปออกรายการทีวีทั้งที่ถูกสั่งห้ามแล้ว”

ต่อจากนั้น ทนายเดชา กิตติวิทยานัน ได้เข้ามาดูแลคดี จนถึงเหตุการณ์ที่ แม่แตงโม ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค 25 พ.ค. โดยการ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า  “ผมและคุณแม่แตงโมได้ตกลง เกี่ยวกับคดีแตงโม โดยผมขอถอนตัวจากการเป็นทนายความเนื่องจากมีความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน

หลังจากโพสตไม่นาน นายมงคลกิตติ์ (เต้) สุขสินธารานนท์ ไลฟ์สดว่า ได้เข้ามาดูแลคดีแตงโม พร้อมทีมกฎหมาย

หลังจากนั้น ทนายเดชา ได้ถอนตัวและเปิดใจในรายการโหนกระแส ถึงเหตุผลที่ถอนตัวว่า มี 3 เหตุผลคือ 1.คุณแม่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค 2.ปรึกษาเพื่อนขอเปลี่ยนทนาย และ3.ให้ฟ้องทนายตั้ม เหตุที่คุณแม่อยากฟ้องทนายตั้ม เป็นเพราะ ไม่พอใจ ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ และบอกให้ติดต่อหาทนายตั้ม ให้มาขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษจะดำเนินคดีทนายตั้ม แต่ตนบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ดำเนินคดีไม่ได้ ถ้าจะให้ดำเนินคดีทนายตั้ม ก็ต้องเปลี่ยนทนายใหม่

หลังจากนั้น เต้ มงคลกิตติ์ ได้เข้ามาดูแลคดีแทน โดยได้แถลงเปิดตัวที่ “ศูนย์ช่วยเหลือผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม” ซึ่งมี ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของแม่แตงโม เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, นายบัญชา สุชญา หรือ ทนายอู๋ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน, ว่าที่ ร.ท.กรวิชญ์ พรฟ้านิมิต เป็นคณะทำงาน และ นายเกษม วงศ์เมือง เป็นคณะทำงาน และยังมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย



สุดท้าย เต้ มงคลกิตติ์ ก็ขอถอนตัวยกทีม ให้ ทีมนายอัจฉริยะ ดูแล โดยให้เหตุผลว่า ให้พี่อัจฯ ทำงานให้เต็มที่ เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับน้องแตงโม

ต่อมา นายอัจฉริยะ แจ้งข้อความถึงกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า “จบแล้วนะครับคดีแตงโม 23 มิ.ย. ผมถือว่าทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เพราะแม่แตงโมจะไปถอนฟ้อง คดีที่ผมฟ้องตรง และเททุกคน โดยไม่ฟ้องใครบนเรือ เหนื่อยครับ เคสนี้ก็ถือว่า คนรวยทำอะไรก็ถูกไปหมด ผมก็เก็บหลักฐานไว้สู้กับคนที่มาฟ้องเราเท่านั้น

สุดท้ายก็มาจบที่ ทนายชนบท ศุภศรี อดีตผู้พิพากษา ที่เข้ามารับไม้ต่อ แต่เมื่อ แม่แตงโม ถอนฟ้องทางแพ่งทุกคนบนเรือ ก็เลยจบบทบาทไปอีกคน  

ส่งมือถือแตงโมให้บังแจ็ค

ในเดือนพ.ค. มีภาพลับของแตงโม ที่ไม่เคยปรากฏทางสาธารณะมาก่อน รวมถึงการเคลื่อนไหวของเพจแตงโม สร้างความฉงนให้กับคนติดตามคดีแตงโมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งรู้ ตัวผู้กระทำคือ บังแจ็ค และภาพที่ถูกนำมาเสนอเป็นภาพจากโทรศัพท์ของแตงโม จึงมีคำถามว่าไปอยู่ที่บังแจ็คได้อย่างไร เพราะแม่แตงโมเป็นผู้เก็บโทรศัพท์ไว้

สุดท้าย 25 พ.ค. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความแม่แตงโมในขณะนั้น ต้องเปิดโต๊ะ แถลงข่าวถึงประเด็นมือถือแตงโมอยู่ที่ใครและภาพของแตงโมที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก ประเด็นมือถือแตงโม ว่า ได้รับการยืนยันจากแม่แตงโมว่าอยู่ที่บังแจ็ค โดยส่งไปยังสหรัฐอเมริกา ทางไปรษณีย์ โดยแม่แตงโมดำเนินการเองทั้งหมด เหตุผลที่ให้บังแจ็คไป เพราะอยากกู้ภาพที่เชื่อว่าแตงโมกำลังโดนกระทำ แม่ไม่มีเจตนาปล่อยรู้ไม่เหมาะสม ตอนแรกแม่เชื่อบังแจ็คมีเจตนาดี

9.2 ล้าน ปิดคดีทางแพ่ง

วันที่ 21 ก.ย. 2565 เวลา 09.10 น. แม่แตงโมเดินทางมาที่ศาลอาญาจังหวัดนนทบุรี พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการขึ้นศาล เบื้องต้นยังไม่ได้คุยอะไรกับใคร ส่วนเรื่องจำนวนตัวเลขการเยียวยา ตนคิดไว้แล้วแต่ยังตอบไม่ได้ ขอคุยกับทางศาลก่อน พร้อมทั้งบอกว่าไม่ได้โกรธใคร รวมถึงนักข่าว และบอกว่าจะลงมาตอบคำถามอีกครั้ง หลังจากพูดคุยเจรจาเสร็จสิ้น

จากนั้นเวลา 13.30 น. ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดจำเลยทั้ง 6 มาเพื่อสอบคำให้การ และนัดคุณแม่แตงโมมาตกลงเรื่องค่าเสียหายในส่วนค่าเสียหาย จำเลยทั้ง 6 คนได้รวบรวมเงินสด 4 แสนบาท กับแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ ฉบับละ 8 แสนบาท เป็นเงินทั้งหมด 2 ล้านบาท อีกทั้งยังมอบเงินเดือนละ 3 หมื่นบาท เป็นเวลา 20 ปี หรือจนกว่าคุณแม่จะเสียชีวิต โดยไม่มีทายาทสืบต่อ และแซนกับกระติกร่วมกันมอบต่างหูมุก ให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย ถือว่าคดีทางแพ่งจบลงแล้ว

บังแจ็ค เป็นใคร

"บังแจ็ค" มีชื่อจริงว่า Mr.Zulqarnain Raja Haider เป็นชาวปากีสถานที่เกิดในสหรัฐอเมริกา เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเมื่อปี 2554 ในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษ และยังเป็นอดีตสมาชิกรถซิ่งของ เบนซ์ เรซซิ่ง ด้วย มีชื่อในวงการว่า แจ็ค ราชา ไฮเดอร์

เคยถูกจับที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2559  คดีเข้าเมืองผิดกฎหมายและถูกผลักดันออกประเทศ รวมถึงเคยถูกกล่าวหาว่าพัวพันเครือข่าย ไซซะนะ แก๊งค้ายาข้ามชาติ ที่ถูกจับกุมไป ปัจจุบันตอนนี้คาดว่า บังแจ็ค อยู่ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ย้อนวีรกรรมบังแจ็ค

ถูกกล่าวหาว่าขายไอโฟนแล้วโกงเงิน ไม่ยอมส่งของ นอกจากนี้ยังพัวพันกับคดีใหญ่ค้ายาเสพติดและฟอกเงิน มีการข่มขู่คนดังมากมาย และมักอัดคลิปโชว์ปืน AK-47

มีการตัดต่อสลิปเงินเก่ง ขู่แฉคลิป น้องเนย อดีตแฟนสาวของ เก่ง ลายพราง เนื่องจาก น้องเนย แจ้งความว่า ถูก บังแจ็ค หลอกขายของ บังแจ็ค กลับทวงเงิน 2 ล้านที่ น้องเนย ติดไว้ ขู่จะปล่อยคลิปฉาว แต่มาทราบภายหลังว่า สลิปที่โพสต์ ปลอม

อีกทั้งยังเคยข่มขู่ หนุ่ม กรรชัย ด้วยรูปปืนในเฟซบุ๊กเพจ "แจ๊สสปุ๊กนิคปาปิยองกุ๊กกุ๊ก fc V.2” ทนายตั้ม เป็นผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า รูปมือกับนาฬิกาของคนในเพจคล้ายกับ บังแจ็ค

นอกจากนี้ บุ๋ม ปนัดดา เคยโพสต์ด้วยว่า ไม่อยากให้สังคมให้ค่าคนแบบนี้ ถูกขู่มา 5 ปีแล้วยังไม่เกิดอะไรขึ้นเลย

อย่างไรก็ตาม ภนิดา ศิระยุทธโยธิน ก็เป็นคุณแม่ของแตงโมและแตงโม ก็รักและเทิดทูน

คดีของแตงโม อยู่ในกระบวนของศาลแล้วและจะตัดสินในปี 67  แต่พรุ่งนี้ติดตามคนบนเรือลำเดียวกัน