11 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นคฤหาสน์หรูหลังหนึ่งที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ 2 คน ที่มีการสวมบัตรประชาชนเป็นชื่อคนไทย ว่า จากการตรวจค้นที่บ้าน พบว่าหลักฐานสำคัญ อาจจะมีการขนย้ายออกไปก่อนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังพบหลักฐานอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้
ส่วนเรื่องที่ดิน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เจ้าของที่ดินก็คือนายทุนจีนที่ตกเป็นผู้ต้องหา รายละเอียดอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวมถึงกรณีที่ว่าจะมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าอาวุธหรือไม่นั้น ก็ต้องรอการสืบสวนสอบสวนก่อน เนื่องจากบริษัทค้าอาวุธได้ปิดตัวไปแล้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ผู้ต้องหารายนี้ ไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อต้องสงสัยตั้งแต่แรก แต่ได้มีผู้แจ้งเบาะแสมาว่า มีการทำธุรกิจหลายแบบ ตำรวจจึงเข้าไปติดตามพฤติกรรม จนสืบพบจากพยานแวดล้อม ทราบชื่อจากพาสปอร์ต และพบว่ามีการใช้บัตรประชาชนปลอม จึงมีการออกหมายจับและตรวจค้นบ้าน
ส่วนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา จะเชื่อมโยงกับแก๊งนายทุนจีน 5 เสือหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะยังมีข้อมูลไม่เยอะ ส่วนที่ผู้ต้องหาขนย้ายสิ่งของออกไปก่อนที่จะเข้าตรวจค้นนั้น ยังไม่ข้อสรุปว่าจะมีผู้เข้าไปช่วยเหลือ หรือมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะยังไม่อยากพาดพิงถึงใคร
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จับกุมได้เมื่อวาน (10 พ.ย.65) ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะสาวถึงตัวการรายใหญ่ได้หรือไม่ ยืนยันว่า ตำรวจจะทำเต็มที่
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เพจสายไหมต้องรอด มีการเปิดเผยข้อมูลว่าพบบ่อนการพนันที่ จ.สมุทรปราการ และมีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บ่อนดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ยังยืนยันว่า สถานที่ดังกล่าวไม่ใช่บ่อน และก็ไม่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการยิงกัน แต่ก็ได้กำชับให้มีการตรวจสอบอีกรอบให้ชัดเจนเพื่อคลายข้อสงสัย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้พูดว่า ไม่มีบ่อนในพื้นที่ แต่ต่อมาก็มีข้อมูลของบ่อนถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ จะสวนทางกันหรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า กลุ่มที่ลักลอบเล่นการพนันก็ยังคงมีอยู่ แต่ยืนยันว่า ได้สั่งการไม่ให้มีบ่อนอย่างเด็ดขาด ถ้ามีก็ต้องดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย และหากมีการแจ้งข้อมูลมาก็จะเข้าไปตรวจสอบ