จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน ขับขี่ จยย. พร้อมด้วยอาวุธมีด ท่อนเหล็ก บุกเข้ามาทำลาย ทรัพย์สินของร้านขายของเก่า โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วยกแก๊ง พร้อมเชิญผู้ปกครองและคู่อริ เปิดปมขัดแย้งกลุ่มนักเรียนฟันน้ำนมเครียส์ใจชื่นมื่นก่อนดำเนินคดี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.มาบตาพุด ได้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ หลังเข้าทำลายทรัพย์สินร้านค้าของเก่าของ นายนภา สายบุญขันธ์ อายุ 38 ปี ได้รับความเสียหาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเป็นหลักฐาน
ผลการจับกุมสามารถรวบตัวกลุ่มเยาวชน ผู้ก่อเหตุมีอายุประมาณ13-16 ปี รวมทั้งสิ้น15 คน จึงเชิญตัวผู้ปกครองมาสอบสวน จนทราบว่า กลุ่มเยาวชนเป็นเด็กนักเรียนอยู่ในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อำเภอเมืองระยอง ที่มีความขัดแย้งกับ กลุ่มเพื่อนเยาวชนในโรงเรียนเดียวกัน ที่มาจากสาเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันในโซเชียล Facebook ก่อนจะมีการยกพวก เข้าทำร้ายกันก่อนหน้านี้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวกลุ่มเยาวชน และผู้ปกครองของอีกฝ่ายมาสอบสวน จนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิด กลุ่มวัยรุ่ยทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้ง2 ฝ่ายต่างถูกแจ้งความในข้อหา ทำลายทรัพย์สินให้เสียหาย จึงเชิญเยาวชนทั้ง 2 ฝ่ายรวม 30 คน พร้อมด้วยผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย ทำความเข้าใจในกฏหมาย ก่อนปรับความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจในปัญหาของวัยรุ่น
ขณะที่ ด.ช.โอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ฝ่ายของตน ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกชายร้านค้า ที่ได้ไปมีปัญหากับกลุ่มคู่อริ โดยได้ขัดแย้งกัน คือเพื่อนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน มีปัญหาทะเลาะกันใน Facebook ก่อนที่กลุ่มตน จะมีการยกพวกไปทะลาะกับอีกฝ่าย จากนั้นก็ถูกกลุ่มคู่อริ ยกพวกมาเอาคืน โดยมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเอาไว้ได้ และในวันนี้หลังปรับความเข้าใจกัน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้พวกเราจะเป็นเพื่อนกันแล้ว และจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันอีกแล้ว
ทางด้าน พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวว่า จากการสืบสวนต้นเหตุและสาเหตุ มาจากเด็กทะเลาะกันในโซเชียล ส่วนผลในทางคดี ก็ดำเนินการต่อไปในฐานทำลายทรัพย์สินผู้อื่นให้เสียหาย ซึ่งเป็นคดีที่ยอมความได้ ซึ่งในวันนี้ได้เชิญผู้ปกครองมาทำความเข้าใจ ในเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้ประสานปรับความเข้าใจของเด็กทั้งสองฝ่าย และวางมาตรการในการควบคุมร่วมกันกับทางผู้ปกครองไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะนี้ขึ้นอีก ซึ่งตำรวจจะเป็นแกนนำในการนำกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุในลักษณะนี้มาบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมด้วย
ขณะที่ น.ส.สิริพร ไตรพัด อายุ 36 ปี ตัวแทนผู้ปกครองฝ่ายเยาวชน กลุ่มที่บุกไปทำลายทรัพย์สินร้านค้าของเก่า กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุ และสามารถจบกันได้ด้วยดี โดยต่อจากนี้ ก็จะไปตักเตือน และอบรมลูกหลานให้ดี ไม่ให้ก่อเหตุในลักษณะนี้อีก
นายนภา เจ้าของร้านค้าของเก่า กล่าว่า รู้สึกดีใจที่ทุกฝ่าย สามารถจบลงกันได้ด้วยความเข้าใจ และยิ่งเห็นลูกหลานจับไม้จับมือกัน ก็ยิ่งรู้สึกดีใจมาก ในการแก้ปัญหาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำความเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายต่างถอนแจ้งความ ในข้อหาทำลายทรัพย์สินกัน พร้อมต่างฝ่ายต่างชดใช้ค่าเสียหาย จนเกิดภาพแห่งความชื่นมื่นของบรรดาผู้ปกครองที่จะร่วมกันแก้ปัญหาของวัยรุ่นในปกครองไม่ให้เกิดขึ้นอีก