สำรวจชุมชนฯใต้สะพานซังฮี้ น้ำท่วมขังสูง 1-2 เมตร
ชุมชนฯใต้สะพานซังฮี้ น้ำท่วมขังสูง 1-2 เมตร แนวกระสอบทรายถูกนำมาปิดกั้น ส่วนเขตฯ นำแผ่นไม้ปูสะพานทางเดินเข้า-ออก ชาวบ้าน ชี้ มาเร็วกว่าทุกปี อาจยาวนานถึงต้นปีหน้า แต่มีบทเรียนปี 54 จึงเตรียมรับมืออย่างดี ยายวัย 87 เผยความรู้สึกยากอธิบาย
จากกรณีที่ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร แจ้งเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 5-13 ตุลาคม เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พาดผ่านปกคลุมอ่าวไทย รวมทั้งมีการระบายน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นกว่าปกติ ระดับน้ำจะมีความสูง 1.70-2.00 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ชุมชนราชผาติการาม ข้างศาลเจ้าแม่ทับทิม ใต้สะพานซังฮี้ ซึ่งเป็นจุดที่กรุงเทพมหานครไม่สามารถทำแนวคันกั้นน้ำได้เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนไม่ประสงค์ที่จะย้ายออก โดยเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงพบว่าชุมชนดังกล่าวน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดริมน้ำ ท่วมสูงประมาณ 1-2 เมตร มีการตั้งแนวกระสอบทรายบริเวณทางเข้าชุมชน เพื่อไม่ให้น้ำภายในชุมชนทะลักเข้าสู่พื้นถนน
ส่วนการสัญจรภายในชุมชนเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดุสิต ได้จัดทำสะพานไม้ไว้สำหรับเปิดทางเดินให้กับชาวบ้าน ขณะที่การอยู่อาศัยส่วนใหญ่อพยพขึ้นไปอาศัยบนชั้น 2 ของตัวบ้าน
อย่าง คุณน้าท่านนี้ เล่าให้ฟังว่า บริเวณนี้ยอมรับว่ามีน้ำท่วมขังทุกปี ปีละ3-4เดือน ส่วนใหญ่จะท่วมตั้งแต่ช่วง ปลายกันยายน-ธันวาคม แต่ปีนี้น้ำมาเร็วกว่าปกติ โดยมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน และเชื่อว่าจะท่วมขังยาวนานไปจนถึงเดือน มกราคม ซึ่งจะขึ้นเร็ว แต่ลดช้ามาก ทำให้หลายคนอาจจะมองว่าที่ชุมชนท่วมบ่อย และทุกคนอาจจะชิน
ต้องบอกว่าความชิน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้เตรียมตัวรับมือเบื้องต้นเท่านั้น แต่ความลำบากก็ยังคงอยู่ ความเป็นอยู่ การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมนาน ก็ยังเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยเหลือตัวเองอยู่ดี ซึ่งตอนนี้ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ชั้น 2 กินนอน ปรุงอาหาร สัตว์เลี้ยงขึ้นไปอยู่รวมกันหมด ส่วนน้ำไฟ เราได้บทเรียนจากน้ำท่วมปี 2554 ทางเจ้าหน้าที่ได้มาช่วยยกหมอแปลง สายไฟต่างๆ ขึ้นไปที่สูงทั้งหมด
เช่นเดียวกับคุณยายอารี มั่งมี วัย 87 ปี ที่พาทีมข่าวไปดูบ้านตัวเองที่น้ำท่วมชั้น1 ซึ่งตัวคุณป้าก็ต้องอาศัยอยู่ชั้น1 เพราะเดินขึ้นบ้านไม่ไหว โดยเมื่อคุณยายเปิดบ้านเข้าไป พบว่าภายในบ้านน้ำท่วมสูงประมาณครึ่งหนึ่งของชั้น1 เสื้อผ้ามีการยกราวผ้าให้สูงป้องกันน้ำ ส่วนห้องน้ำและห้องครัว ถูกน้ำท่วมทั้งหมด
เหลือเพียงที่นอนของคุณยาย ที่ลูกชายปรับยกสูงให้เหนือน้ำเพียงเล็กน้อย วันดี คืนดี น้ำก็ท่วมขาเตียง บางวันตอนกลางคืนนอนๆอยู่ก็เห็นปลาว่ายน้ำเข้ามาในบ้าน บางครั้งก็โยนอาหารให้มันกิน หลายคนอาจจะมองเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับคุณยายที่ต้องอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งปี ต้องนอนบนฟูกที่นอนเล็กๆ อาจจะเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
นอกจากนี้ ในช่วงเย็นนางสาวรุจิรา อารินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต ได้นำทีมผู้บริหารเดินทางตะเวนตรวจพื้นที่ล่อแหลม ที่เสี่ยงจะถูกน้ำท่วมขัง และเป็นการตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของชาวบ้านเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน
